อยากหน้าสวยใส ต้อง "มาสก์หน้า" ให้ถูกวิธี
อยากหน้าสวยใส ต้อง "มาสก์หน้า" ให้ถูกวิธี
ผิวของคนเราสามารถแห้งและขาดความชุ่มชื้นได้ตลอดทั้งปีทำให้เห็นเส้นเลือดชัดขึ้นดังนั้นการทำความสะอาดผิวที่มองเห็นเส้นเลือดได้ชัดนี้ก็เป็นสิ่งจำเป็น และสิ่งที่ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือดีพเคล็นชิงมาสก์เพราะการมาสก์หน้าเป็นวิธีที่ดีที่ดีที่จะช่วยให้ผิวดูสดใสไม่ว่าสีผิวจะเป็นอย่างไร และช่วยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น ซึ่งการมาสก์หน้านี้สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตนเองที่บ้าน โดยผสมมาสก์ตามสูตรต่างๆ ที่ให้ไว้ เท่านี้ใบหน้าก็จะได้รับคุณค่าจากส่วนผสมต่าง ๆ ที่อยู่ในมาสก์
การมาสก์หน้าคืออะไร
การมาสก์หน้าเป็นกระบวนการง่ายๆ เรียกว่าเป็นเดอร์โมคอสเมติก (Derno-cosmetic) ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยได้ให้ผิดแลดูอ่อนเยาว์ ป้องกันไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัย รวมทั้งช่วยในการไหลเวียนโลหิต ทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นแล้วกำจัดสารพิษออกไป โดยทั่วไปแล้วส่วนผสมของมาสก์จะมีความเข้มข้นมากว่าส่วนสมในโลชั่นหรือเคล็นเซอร์ ดังนั้นจึงให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดกว่าและรวดเร็วกว่าเช่นกัน
ข้อดีของการมาสก์หน้า
การมาสก์หน้าไม่เพียงแต่จะทำให้รู้สึกสบายกายสบายใจเท่านั้น แต่ส่วนผสมในมาสก์ยังช่วยทำให้ใบหน้าดูสว่าง ทำความสะอาดผิว ทำให้ผิวสดชื่น เรียกได้ว่าเป็นการทำสปาที่บ้าน เพราะ ช่วยลดความเครียด ทำให้รู้สึกมีความสุข เพลิดเพลินกับการพักผ่อนเล็กน้อยขณะที่ให้ความรู้สึกดีไปด้วย ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายของการมาสก์หรือการพอกหน้าก็คือทำให้คุณดูเป็นคนใหม่ที่สงบและอ่อนเยาว์ลง
ให้ลองคิดว่ามาสก์นั้นเป็นระบบพื้นฐานในการจัดส่งสารอาหาร เพราะว่ามาสก์นั้นหนากว่ามอยส์เจอไรเซอร์หรือทรีตเมนต์ที่ใช้กับผิวทั่วไป และเนื่องจากการมาสก์นั้นใช้เวลานานกว่าและทำให้เกิดความอบอุ่นขึ้นภายใน ซึ่งไปช่วยให้รูขุมขนขยายตัว เป็นช่องทางให้สารอาหารซึมเข้าไปในผิวได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่า และเมื่อจำเป็นที่จะต้องมาสก์ มาสก์ยังช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกิน รวมทั้งสิ่งสกปรกที่ลอยมาจากอากาศและมลภาวะได้อย่างอ่อนโยนกว่าสารที่ช่วยกระชับรูขุมขน(Astringem) โทเนอร์ (Toner) และสครับ (Scaob)นอกจากนี้มาสก์ยังช่วยทำให้เกิดน้ำมันที่จำเป็นสำหรับผิวโดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว
ควรมาสก์หน้าบ่อยแค่ไหน
เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้งจนเกินไป ไม่ควรมาสก์หน้าเกินกว่าสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งก็เป็นระยะเวลาที่ดี เมื่อลองนึกว่าการมาสก์หน้านั้นเหมือนการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง ซึ่งจะไม่ได้ผลอะไรหากทำเพียงครั้งเดียวต่อระยะเวลาหลายๆ เดือน แต่ถ้าไม่สามารถหาเวลามาสก์หน้าได้บ่อยนักก็ไม่ต้องกังวล เพราะว่าช่วงเปลี่ยนฤดูตอนปลายฤดูร้อน (ผิวต้องการความชุ่มชื้นหลังออกแดด) และปลายฤดูหนาว (ผิวตึงและไม่สดใส) เป็นช่วงเวลาหลัก ๆ ที่จะทำได้และเมื่อมาสก์หน้าเสร็จแล้วก็นำผ้าสักหลาดชุบน้ำอุ่นมาเช็ดออก ซึ่งจะทำหน้าที่เหมือนตัวทำความสะอาดแบบอ่อนโยน ทำให้ผิวดูสว่างขึ้นและดูแจ่มใสขึ้นได้ทันที
ใช้มาสก์ชนิดใดจึงจะเหมาะกับผิวหน้า
นายแพทย์ เดวิด แบงค์ ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังที่นิวยอร์ก เจ้าของผลงานหนังสือเรื่อง Beautiful Skin: Every Woman's Guide to Looking Her Best at Any Age กล่าวว่า ถ้าพูดถึง ประเภทของมาสก์ที่ควรใช้นั้น หากผิวหน้าของคุณเป็นผิวมัน ให้ใช้มาสก์พอกหน้าชนิดโคลน เพราะจะช่วยซับเอาน้ำมันส่วนเกินออกไปแต่ถ้าเป็นผิวแห้ง ให้ใช้มาสก์ชนิดครีมที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว หรือ ถ้าเป็นผิวแพ้ง่ายให้ใช้มาสก์ชนิดเจลที่มีเนื้อบางเบา และถ้าเป็นผิวผสม ก็อาจต้องใช้มาสก์หลายชนิดตามส่วนต่างๆ บนใบหน้า
ตัวอย่างเช่น ใช้ดีพเคล็นซิ่งมาสก์บริเวณที่โซน ขณะเดียวกันก็ใช้มาสก์ที่ให้ความชุ่มชื้นมากกว่าตรงบริเวณแก้ม ซึ่งถ้าเลือกใช้มาสก์ได้เหมาะกับสภาพผิวหน้าก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
วิธีมาสก์หน้าที่ถูกต้อง
1. ล้างหน้าและลำคอให้สะอาด
2. ทาครีมป้องกันผิวรอบๆ ดวงตาและปาก
3. ทามาสก์บนใบหน้าและลำคอ โดยไม่ควรทิ้งไว้นานกว่า 20 นาที
4. ใช้น้ำอุ่นหรือน้ำแร่ล้างออกให้หมด
5. ทาครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้น ปิดท้าย
สูตรผสมสำหรับการมาสก์หน้าแนะนำ
สูตรที่ 1 มาสก์มะเขือเทศเพิ่มความชุ่มชื้น
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผิวธรรมดา การทำมาสก์ชนิดนี้ให้หั่นมะเขือเทศสดผลเล็กๆ ออกเป็น 2 ส่วนแล้วใช้ทั้ง 2 ส่วนถูบนใบหน้าเป็นรูปวงกลม พอน้ำมะเขือเทศบนหน้าแห้งแล้วก็ล้างหน้าให้สะอาด จากนั้นก็ตามด้วยโทเนอร์และมอยส์เจอไรเซอร์
สูตรที่ 2 มาสก์ไข่ขาวแบบง่ายๆ ช่วยปรับสีผิว
มาสก์จากไข่ขาวจะช่วยปรับสีผิวบนใบหน้า โดยนำไข่ขาวมานวดให้ทั่วใบหน้า เมื่อไข่ขาวแห้งดีค่อยล้างออกให้หมด ใช้โทเนอร์และมอยส์เจอไรเซอร์เป็นขั้นตอนสุดท้าย จะช่วยให้รูขุมขนเล็กลงและทำให้ใบหน้าสดชื่นขึ้น
สูตรที่ 3 มาสก์ลูกพีชและน้ำผึ้งเพิ่มความสดชื่น
สูตรนี้ใช้ได้ดีราวเวทมนตร์แถมยังรสชาติดีอีกด้วย การผสมสูตรนี้ให้ใช้ลูกพืชผลใหญ่ 1 ผล ผสมกับน้ำผึ้ง 3 ช้อนชา และโยเกิร์ตอีก 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกันจนกระทั่งได้เนื้อครีมที่เข้มข้น จากนั้นนำมาพอกบนใบหน้าและลำคอ นอนพักสัก 10 นาที จากนั้นจึงค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่นแล้วใช้โทเนอร์ตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เป็นการปิดท้าย
สูตรที่ 4 มาสก์แตงกวาช่วยให้ผ่อนคลาย
มาสก์ชนิดนี้เหมาะสำหรับผิวหน้าทุกชนิด และเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด ให้ทำเป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยใช้ข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย ผสมกับรำข้าวสาลี 1 ช้อนโต๊ะ นำมาบดให้ละเอียด จากนั้นก็ใส่นมเปรี้ยว 2 ช้อนโต๊ะ วิปป์ดรีม 2 ซ้อนโต๊ะ น้ำมะนาวอีก 1(1/2) ช้อนโต๊ะ โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะ ใบสะระแหน่ (มินต์) สด 1 ช้อนชา และแตงกว่า 1/2 ผลขนาดกลางที่หั่นเป็นชิ้น นำมาผสมให้เข้ากัน พอกบนใบหน้าที่ทำความสะอาดแล้ว ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น ตามด้วยโทเนอร์และมอยส์เจอไรเซอร์
สูตรที่ 5 มาสก์ข้าวโอ๊ตบดหยาบช่วยขัดผิว
เหมาะสำหรับการขจัดเซลล์ผิวที่แห้งกร้าน โดยผสมข้าวโอ๊ตบดหยาบแห้ง 3/4 ถ้วย กับน้ำอุ่นประมาณ 1 ส่วน 3 ถ้วย จนข้นและเข้ากัน จากนั้นก็พอกบนใบหน้า นอนพักรอจนกว่าจะแห้ง เมื่อแห้งแล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่น ตามด้วยโทเนอร์และมอยส์เจอไรเซอร์
สูตรที่ 6 มาสก์ถั่ว อะโวคาโด และน้ำผึ้ง สครับชั้นดี
เริ่มจากการบดและผสมผลอะโวคาโดสุก 1 ผลกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ตามด้วยอัลมอนด์อีก 1 ช้อนชา ผสมให้เข้ากันจนเนื้อครีมข้นแล้วพอกบนใบหน้าที่ทำความสะอาดแล้ว จากนั้นก็ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จึงใช้มือนวดเบาๆ เพื่อให้มาสก์ช่วยขัดผิว จากนั้นค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่น
สูตรที่ 7 มาสก์แป้งข้าวโพดทำความสะอาดผิวหน้าได้ล้ำลึาลึก
ผสมแป้งข้าวโพด 1/2 ถ้วย กับไข่ขาว 1 ฟอง น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา โซเดียมไบคาร์บอเนต (Baking Soda) ครึ่งช้อนชา และนมอีก 2 ช้อนโต๊ะ นำมานวดใบหน้าเบาๆ โดยหลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา จากนั้นก็ปล่อยให้แห้งแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
สูตรที่ 8 มาสก์ไข่และน้ำผึ้งเพิ่มความเปล่งปลั่ง
สูตรนี้จะช่วยทำความสะอาดผิวหน้า ทำให้ผิวที่เป็นขุยหรือมีสะเก็ดเรียบเนียนขึ้น โดยผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ กับไข่แดง 1 ฟอง น้ำมันอัลมอนด์ 1/2 ช้อนชาและโยเกิร์ตอีก 1 ช้อนโต๊ะ นำมานวดผิวและทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นให้ใช้น้ำเย็นล้างออกแล้วตามด้วยโทเนอร์และมอยส์เจอไรเซอร์
สูตรที่ 9 มาสก์กล้วยหอมเพื่อผิวเต่งตึง
มาสก์ชนิดนี้จะช่วยผ่อนคลายรวมทั้งมีกลิ่นที่น่ากินอีกด้วย โดยใช้ส้อมตีไข่แดง 1 ฟอง ผสมกับน้ำมันอัลมอนด์ 2 ช้อนชา และกล้วยหอมสุก 1 ผล จนกระทั่งเนื้อมาสก์ข้น จากนั้นก็นำมาพอกหน้าและลำคอทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น เช็ดให้แห้ง ตามด้วยโทเนอร์และมอยส์เจอไรเซอร์
สูตรที่ 10 มาสก์เบียร์ให้ความเนียนนุ่มชุ่มชื้น
เก็บเบียร์คำสุดท้ายเอาไว้ เพราะคุณสามารถนำเบียร์ที่เหลือก้นแก้ว 1 ช้อนโต๊ะมาผสมกับโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ช้อนชาพูน น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา ไข่ขาว 1 ฟอง น้ำมะนาว 1 ช้อนชา และเมล็ดอัลมอนด์บดหยาบ 1 ช้อนชา มาปั่นรวมกันในเครื่องปั่นโดยใช้ความเร็วต่ำประมาณ 1/2 ชั่วโมงจากนั้นก็ชโลมหน้าให้เปียกด้วยน้ำอุ่น แล้วพอกหน้าให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ใช้น้ำเย็นล้างหน้าอีกครั้ง ตามด้วย โทเนอร์และมอยส์เจอไรเซอร์
สูตรที่ 11 มาสก์โคลนและอะโวคาโดแก้ปัญหาผิวมัน
หากต้องการให้ผิวมัน ๆ ของคุณนุ่มขึ้น ลองใช้สูตรมาสก์โคลนที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกสูตรนี้ ซึ่งอาจหาซื้อโคลนผงได้ตามร้านขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยตักโคลนผง 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับไข่แดง 1 ฟอง อะโวคาโดบดอีก 1/4 ผลและวิตช์เฮเซล (Witch Hazel) ในสัดส่วนที่เพียงพอที่จะทำให้ส่วนผสมนั้นนุ่ม จากนั้นก็นำมาพอกหน้า (หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา) ทิ้งให้แห้งสนิท แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เช็ดให้แห้ง ตามด้วยโทเนอร์และมอยส์เจอไรเซอร์
สูตรที่ 12 มาสก์ถั่วเหลืองช่วยลดสิ่งสกปรก
เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผิวมันและผิวที่ไม่เรียบเนียน ให้ผสมถั่วเหลืองขันบด 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา ปั่นให้ละเอียดเนียน จากนั้นก็นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ให้แห้งสนิท แล้วใช้น้ำเย็นล้างออก ตามด้วยโทเนอร์และมอยส์เจอไรเซอร์
ป.ล. เพื่อนๆ สามารถติดตามกระทู้อื่นๆ ได้ที่
https://page.postjung.com/n00kky
อ้างอิงจาก: หนังสือ 108 Beauty Tips สวยเองได้ ไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม โดย มาริสา เกรซ