รีวิว SPIDER-MAN : ACROSS THE SPIDER-VERSE ผงาดข้ามจักรวาลแมงมุม
ไม่น่าเชื่อ ไอ้แมงมุมที่ปรากฎมาแล้วหลายภาคยังมีแง่มุมที่ยังไปต่อได้อีก และทำได้ดีเสียด้วย ในแง่ของแอนิเมชันที่สามารถบันดาลจินตนาการได้อย่างไร้ขีดจำกัด และเป็นภาคต่อที่สานเรื่องราวที่จบไปแล้ว ถ้าเราคิดว่าคาดเดาพล็อตเรื่อง บอกเลยว่าผิดคาด
ไมล์ มอลลาเรส กลับมาอีกครั้งและครั้งนี้ไม่ใช่แค่ข้ามจักรวาล Multiverse แต่หนังทะยานไปได้ไกลกว่านั้นมาก ผลงานการกำกับโดยผู้กำกับสามคน Joaquim Dos Santos, Kemp Powers และ Justin K. Thompson และได้ผู้เขียนบทมือดีอีกสามคน Phil Lord, Christopher Miller และ Dave Callaham
เรื่องย่อ
ไมลล์ มอลาเรส สไปเดอร์ แมนของจักรวาลหนึ่ง ได้พบเจอเกว็น สเตซีอีกครั้ง หลังจากทีคิดว่าจะได้ไม่ได้กันอีกแล้ว เพราะอยู่คนละจักรวาล ที่เจอกันได้เพราะกำลังล่าตัว The Spot วายร้ายลายจุดที่สามารถท่องพหุจักรวาลได้ด้วยจุดดำบนตัวของเขา
ไมลล์รู้ความจริงภายหลังว่าเกว็นทำงานให้กับมิเกล ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่ม Spider-Society แหล่งรวบรวมไอ้แมงมุมจากทุกจักรวาลมาทำงานร่วมกันและปกป้องไม่ให้จักรวาลเสียดุลยภาพ
แต่หลักการดังกล่าวขัดกับแนวคิดของไมลล์ เขาต้องการจะปกป้องชีวิตผู้คนควบคู่กับการปกป้องจักรวาลไปพร้อมกันได้ ความขัดแย้งอันสุดโต่งเกิดขึ้นพ่วงมาด้วยเรื่องส่วนตัวที่วุ่นไม่แพ้กัน
นอกจากไมลล์จะถูกสไปเดอร์แมนด้วยกันไล่ล่า เขายังมีศัตรูที่ต้องจัดการให้สำเร็จ ก่อนที่เขาจะต้องสูญเสียอะไรในชีวิตมากไปกว่านี้
นักแสดงนำ
- Shameik Moore พากย์เสียงเป็น Miles Morales
- Hailee Steinfeld พากย์เสียงเป็น Gwen Stacy
- Oscar Isaac พากย์เสียงเป็น Miguel O'Hara
- Issa Rae พากย์เสียงเป็น Jessica Drew
- Jason Schwartzman พากย์เสียงเป็น Spot
- Jake Johnson พากย์เสียงเป็น Peter B. Parker
- Daniel Kaluuya พากย์เสียงเป็น Hobie Brown
- Karan Soni พากย์เสียงเป็น Pavitr Prabhakar
- Brian Tyree Henry พากย์เสียงเป็น Jeff Morales
- Shea Whigham พากย์เสียงเป็น George Stacy
ความชื่นชอบและประทับใจของครีเอเตอร์
1.การดำเนินเรื่องทำได้ดีที่ไม่มีจุดที่น่าเบื่อเลย ทุกประเด็นมีความสำคัญที่ตัดทอนไม่ได้ จุดที่เป็นซีนอารมณ์ก็ทำได้ลึกซึ้ง ฉากแอ็กชันก็ดุดันเอาเรื่อง ซีนอารมณ์ขันก็กวนบาทาไม่น้อย
2.หลายฉากในเรื่องเป็นภาพกราฟฟิตี้ (Graffiti) เป็นภาพที่เฉดสีวูบวาบเป็นระยะ ยิ่งฉากต่อสู้อาจจะดูยากสักหน่อย แต่สื่ออารมณ์ได้ดีในแบบที่ไม่เคยมีหนังเรื่องไหนทำมาก่อน
3.เพลงประกอบภาพยนตร์เป็นแนว Hiphop/Rap ชวนเราอินไปกับหนังได้ง่ายตามไปด้วย บางเพลงทำนองสนุกแต่ก็ชวนเศร้าอยู่ในที
4.พล็อตเรื่องมีน้ำหนัก ทุกคนมีเหตุให้ต้องร้าย ไม่มีใครที่ร้ายโดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น ตัวร้ายจึงดูมีน้ำหนักและความจำเป็นของตัวเอง ขณะเดียวกันทั้งตัวพระและตัวนางก็มีปมปัญหาชีวิตส่วนตัวที่ยังไม่ลงรอยและเป็นปัญหารบกวนจิตใจ มันไม่ง่ายที่จะจัดการกับเรื่องส่วนตัวไปพร้อมกันกับช่วยชีวิตคนได้เลย
5.การมี Spider-Man หลากหลายรูปแบบปรากฎคับจอทำให้หนังมีสเกลที่ใหญ่ขึ้น และตอบโจทย์สาวก Spider-Man ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
6.เป็นหนังภาคต่อที่หากไม่ได้ดูภาคแรกมาก่อนก็ยังพอที่จะตามเรื่องทัน เพราะหนังพยายามจะสื่อให้เข้าใจที่มาของตัวละคร หลังจากที่ภาคแรกห่างหายไปนานพอสมควร แต่หากได้ดูภาคแรกมาก่อนก็จะอินกับหนังได้มากขึ้นได้
ทั้งหมดนี้คือสิ่งครีเอเตอร์ไม่อยากให้พลาด SPIDER-MAN : ACROSS THE SPIDER-VERSE เมื่อดูจบ เราจะเข้าใจเลยว่าทำไมหนังถึงประสบความสำเร็จทั้งรายได้และคำวิจารณ์ ความสนุกของเรื่องทำให้เราไม่อยากให้หนังจบเลย และอยากให้มีภาคต่อมาสะสางปมที่ค้างไว้ทั้งหมด