"กบฏอินเดีย" กับการต่อต้านกระสุนชโลมน้ำมันหมู
เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 19 ที่ประเทศอินเดีย ซึ่งขณะนั้นเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และเนื่องจากกระสุนที่แปดเปื้อน ไปด้วยน้ำมันหมูและน้ำมันวัว จึงเป็นชนวนทำให้เกิดการจลาจล
1. จุดเริ่มต้นกบฏอินเดีย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1857 เมื่อกองทัพอาณานิคม ได้นำ "กระสุนปืนคาบศิลาของ Enfield" รุ่นหนึ่งมาใช้ ซึ่งกระสุนนี้ผู้ใช้จำเป็นต้องใช้ปากกัดปลอกกระสุนที่ทำจากกระดาษ จากนั้นค่อยเทดินปืนลงไปในลำกล้อง ซึ่งตัวกระสุนจำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น เพื่อป้องกันการขัดลำกล้อง และสารหล่อลื่นที่จะไม่ทำอันตรายต่อคน หากเข้าสู่ร่างกายก็ย่อมหนีไม่พ้นผลิตภัณฑ์จากไขมันสัตว์ แต่สารหล่อลื่นที่นำมาใช้ดันเป็นน้ำมันหมูและน้ำมันวัว ซึ่งนับเป็นการดูหมิ่นชาวมุสลิม และชาวฮินดูในเวลาเดียวกัน เนื่องจากชาวฮินดูจะนับถือ "วัว" ว่าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์
2. ให้เปลี่ยนสารหล่อลื่น
ซึ่งทหารท้องถิ่นนี่เรียกว่า "ทหารซีปอย" (Sepoy soldiers) ที่อังกฤษนำมาฝึกทหารแบบยุโรป แต่พวกเขานับถือศาสนาอิสลามและฮินดูไง จึงยึดมั่นในหลักความเชื่อทางศาสนา จึงไม่ต้องการกัดปลอกกระสุนรุ่นนี้ และขอต่อรองให้เปลี่ยนไปใช้วิธีการอื่นแทน เช่น การใช้น้ำมันเนยหรือ "กี" (Ghee เป็นผลิตภัณฑ์นมที่ได้จากการนำครีมหรือเนยมาต้มที่อุณหภูมิประมาณ 100-105 องศาเซลเซียส) แทน หรือให้ใช้มือฉีกปลอกกระสุน แต่ทางกองทัพไม่อนุญาต เนื่องจากเป็นวิธีที่ไม่เหมาะสมในเชิงปฏิบัติ
3. การปฏิเสธจากทหารซีปอย
ในเมื่อกองทัพไม่อนุญาตและไม่ได้ให้ความเคารพ ต่อความเชื่อของพวกเขา ทหารซีปอยบางส่วนจึงปฏิเสธที่จะใช้ปากกัดปลอกกระสุนเช่นกันเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ทหารซีปอย 90 นาย จากกองพลทหารม้าที่ 3 ในเมืองมีรุต (Meerut) ถูกจำคุก
4. เกิดการจลาจล
ซึ่งสิ่งที่ทหารอังกฤษกระทำ ได้สร้างความไม่พอใจให้กับเพื่อนทหารซีปอยด้วยกันเอง จึงพากันสังหารเจ้าหน้าที่อังกฤษ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนๆที่ถูกจำคุก และในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1857 ก่อนยกกองทัพบุกยึดนครเดลี จึงทำให้กลายเป็นชนวนให้พื้นที่อื่นๆทำตาม จึงทำให้ชาวอินเดียลุกฮือ เพราะมันมีเรื่องความไม่เป็นธรรมอื่นๆอยู่ก่อนแล้ว แถมมาดูหมิ่นความเชื่อทางศาสนาอีก มันจึงกลายเป็นชนวนสำคัญในทันที
5. การสังหารหมู่
"ฝ่ายกบฏ" ได้ใช้กำลังสังหารผู้ต่อต้านอย่างรุนแรง แต่สุดท้ายก็ถูกปราบปรามได้ในปลาย ค.ศ. 1858 และเหตุการณ์ครั้งนี้ได้สังหารหมู่ฝ่ายกบฏ และกลายเป็นข้ออ้างของฝ่ายจักรวรรดินิยม ในการเล่นงานฝ่ายตรงข้ามอย่างโหดร้าย
6. ก่อตั้ง "บริติชราช"
จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้นำไปสู่การก่อตั้ง "บริติชราช" (British Raj) ของอังกฤษ เพื่อเป็นองค์กรปกครองอินเดียโดยตรง แทนที่บริษัทอินเดียวตะวันออก แต่ก็ยังมีคนอินเดียที่ลุกขึ้นมาต่อต้านอยู่เสมอๆ และกว่าอินเดียจะได้รับอิสรภาพจากอังกฤษ ก็กินเวลายาวนานจากเหตุการณ์จลาจลในครั้งนี้นานเกือบ 100 ปีเลยทีเดียว จนกระทั้งเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 1947 อินเดียถึงได้รับอิสรภาพจากอังกฤษ
ขอบคุณภาพจาก : Google
ฮุนเซน สั่งซื้ออาวุธเพิ่ม จากตลาดมืด
สิบเลขขายดีแม่จำเนียร งวด 16/12/68
4 นักษัตรดวงเศรษฐี ยิ่งอายุมากยิ่งเงินไหลมา—ช่วงพีคอยู่ที่วัยกลางคน
ไขปริศนา 'ไม้ปวย': คู่มือการเสี่ยงทายเพื่อขอคำยืนยันจากเทพเจ้าจีน (สายมูต้องห้ามพลาด)
คดีสะเทือนขวัญเขย่าโลก: เผยเหตุผลสุดช็อก ทำไม "D4vd" คือบุคคลที่ถูกค้นหามากที่สุดบน Google ปี 2025
จิตวิญญาณที่ไม่อาจทำลาย: เรื่องจริงของ พันเอก ชัยชาญ หาญนาวี วีรบุรุษไทยเพียงคนเดียวใน Hall of Heroes เพนตากอน
จ่าสิบเอก "อภิสิทธิ์" พลีชีพกลางสมรภูมิรายที่ 16 ถูกจรวด BM-21 เขมรถล่มบังเกอร์ที่ภูมะเขือ
จุดที่ตั้งบ้าน 3 หลัง จ.ตราด สมรภูมิที่ต้องยึดคืน
เลือดเนื้อและมิตรภาพ: เปิดหน้าประวัติศาสตร์ "ข้าวและกระสุน" ทำไมเกาหลีใต้จึงรักประเทศไทยไม่เสื่อมคลาย
กองทัพไทยสั่งปิดกั้นอ่าวไทย สกัดเส้นทางส่ง ส่งน้ำมัน-อาวุธ เข้ากัมพูชา
เคล็ดลับการรักษาหุ่นของ "ยุนอึนเฮ" ในวัย 41 ปี คือการดูแลสุขภาพและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดและทหารเผชิญเหตุการณ์ยิงปืนจากนักข่าวเขมรในระยะ 100 เมตร
จ่าสิบเอก "อภิสิทธิ์" พลีชีพกลางสมรภูมิรายที่ 16 ถูกจรวด BM-21 เขมรถล่มบังเกอร์ที่ภูมะเขือ
ฮุนเซน สั่งซื้ออาวุธเพิ่ม จากตลาดมืด
หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดและทหารเผชิญเหตุการณ์ยิงปืนจากนักข่าวเขมรในระยะ 100 เมตร
จุดที่ตั้งบ้าน 3 หลัง จ.ตราด สมรภูมิที่ต้องยึดคืน
จิตวิญญาณที่ไม่อาจทำลาย: เรื่องจริงของ พันเอก ชัยชาญ หาญนาวี วีรบุรุษไทยเพียงคนเดียวใน Hall of Heroes เพนตากอน
เด็กหญิงในกล้องวงจรปิดกลางสุสาน เรื่องลึกลับที่ทำให้ทั้งครอบครัวต้องหยุดหายใจ
ถนนหนึ่งไมล์ครึ่งของเลียม นีสัน เส้นทางที่พาเขากลับไปหาเธอทุกวัน
ดราม่ามิสฟินแลนด์ลุกเป็นไฟ จากท่าดึงหางตา สู่ศึกการเมืองทั้งประเทศ
พุทธานุสสติกับสุญญตาวิหาร: การเชื่อมโยงศรัทธาสู่ปัญญาและวิมุตติ (สร้างกับ เอไอ)








