ตำนานรักสามเส้า ท้าวบางเจียง กับนางมะโรง (ທ້າວບາຈຽງນາງມະໂລງ)
ครั้งหนึ่งนานมาแล้วในประเทศลาว มีผู้คนอาศัยอยู่บนภูเขาสูงและบนพื้นราบ ชาวเผ่าที่อาศัยบนภูเขาสูง ต่างใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียง เรียบง่ายในชีวิต ต่างจากชนบทพื้นราบ ที่บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง ใหญ่โต ผู้คนต่างแสวงหาแต่ความร่ำรวย ฟุ่มเฟือย
ครั้งนั้นมีเศรษฐีคนหนึ่ง เป็นชาวลาวลุ่ม (คนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขง) ออกเดินทางเพื่อจะไปยังต่างเมือง ระหว่างทางนั้นต้องผ่านทีกันดาร ข้ามป่าที่มีสัตว์ป่ามากมาย เมื่อเศรษฐีมาถึงป่าใหญ่ใกล้บ้านตีนภูแห่งหนึ่ง เขาเดินทางตั้งแต่เช้าจนจะคำ แต่เศรษฐียังขี่ม้าอยู่ในป่า เพราะหาทางออกไม่ได้ เขาบ่นพลางมองดูไปรอบๆ จึงรู้ว่าตัวเองหลงทางซะแล้ว พอไปได้อีกหน่อยก็ได้ยินเสียงเสือร้องดังมาใกล้ๆ ม้าของเขาตกใจกระโจนไปข้างหน้าเสือโคร่งตัวใหญ่ร้องคำราม พลางกระโจนเข้ามาจะตะครุบร่างเศรษฐีหนุ่ม เขาได้แต่นอนหลับตาปี๋ นึกถึงหน้าพ่อแก้วแม่แก้ว คิดว่าคงต้องตายอยู่ในป่าแห่งนี้ แต่ผิดคาด เพราะทันใดนั้น ร่างของเสือที่กำลังกระโดดตะครุบลงมา ก็ทรุดฮวบลงไป เพราะมีลูกธนูที่วิ่งสวนมา ปักหัวใจอย่างแม่นยำ “ไม่เป็นไรแล้ว ลุกขึ้นเถิด”
ชายเจ้าของลูกธนูเอ่ยขึ้น ทำให้เศรษฐีเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ดีใจมาก และกล่าวขอบคุณนายพรานชาวลาวเทิง (คนที่อาศัยอยู่ที่ราบสูงติดกับชายแดนไทย) ผู้ช่วยชีวิต
“ข้ามาจากในเมือง ข้าหลงทาง ม้าของข้า...”
เศรษฐีพูดให้นายพรานฟัง และมองหาม้าของตัวเองที่ขี่ม้า นายพรานพยักหน้าอย่างเข้าใจ และได้พาเศรษฐีคนนั้นไปพักในกระท่อมของตน หาข้าวหาปลามาให้เศรษฐีกิน เศรษฐีได้พูดคุยกับนายพรานอย่างถูกคอและได้ให้คำสัญญากันไว้ว่าจะให้ลูกสาวและลูกชายแต่งงานกัน ต่อมาเมียของทั้งสองได้ตั้งท้องและคลอดลูกออกมา ลูกสาวเศรษฐีชื่อมะโรง และลูกชายของนายพรานชื่อบาเจียง
ทั้งบาเจียงและมะโรง ต่างรู้ว่าตัวเป็นคู่หมั้นกัน เมื่อมะโรงโตขึ้น ก็เป็นที่หมายปองของชายหลายคน รวมถึงท้าวจำปาศักดิ์ เศรษฐีและภรรยา ก็ให้มะโรงไปผูกมิตรไมตรีกับชายคนนั้น และบอกให้มะโรงลืมเรื่องที่เป็นคู่หมั้นกับบาเจียงไป
มะโรงเสียใจมาก ได้เพียงแต่รอวันที่บาเจียงจะมาสู่ขอ เศรษฐีและภรรยา ก็คิดหาทางกันไม่ให้ทั้งสองได้แต่งงานกัน เศรษฐีสั่งให้ลูกน้อง จัดทำโลงศพมะโรงขึ้น นำไปตั้งบนภูเขาขวางทาง ระหว่างทางที่ขบวนขันหมากบาเจียงมา เมื่อขบวนขันหมากมาถึงตรงนั้น จึงได้ถามไถ่ และรู้ว่ามะโรงตายแล้ว บาเจียงใจสลาย เอามีดมาแทงตัวเองตายที่ตีนภูเขานั้น
พอเศรษฐีรู้ว่าบาเจียงตาย ก็ดีใจและจัดงานเลี้ยงฉลองใหญ่โต แต่มะโรงเสียใจมาก กับการกระทำของพ่อตัวเอง จึงแอบหนีไปที่ภูเขา ที่ตั้งศพของตัวเอง ที่หลอกบาเจียงไว้ มะโรงปีนเข้าไปในโลง และค่อยๆหลับตาพร้อมกลั้นลมหายใจ เพื่อที่จะได้ไปหาบาเจียง
ภูเขาทั้งสองลูกยังมีมาจนถึงปัจจุบัน ชื่อภูบาเจียง และภูมะโรง อยู่ในแขวงจำปาศักดิ์ ประเทศลาว
อ้างอิงจาก:
https://youtu.be/i0yD34P-uxg?si=LgeNDsjwOCj90juj
ตำนานรัก แห่งจำปาสัก
ตำนานรักเมืองลาว ท้าวบาเจียง กับนางมะโรง โศกนาฏกรรมแห่งความรักที่ถูกกีดกัน
4 นักษัตรดวงเศรษฐี ยิ่งอายุมากยิ่งเงินไหลมา—ช่วงพีคอยู่ที่วัยกลางคน
AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 16 ธันวาคม 68..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปี
11 นายกรัฐมนตรีไทย ที่วาระการดำรงตำแหน่งไม่ครบปี
ทหารไทยพบหลักฐานชิ้นสำคัญ ซึ่งหลักฐานชิ้นนี้ ยืนยันว่า มี "มหาอำนาจ" แอบส่งอาวุธหนักทันสมัยให้เขมร
ชายแดนไทย -กัมพูชาดุเดือดทหารเขมรระดมยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 โจมตีใส่พื้นที่ช่องอานม้า ทหารไทยไม่รอช้าโต้กลับทันที
เครื่องบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ประสบเหตุขัดข้องกลางอากาศ เลยบินวกกลับที่เดิม
"ฮุนเซน" เผยเหตุผลที่ไม่ให้ "คนไทย" ข้ามแดนกลับประเทศตอนนี้..เพราะหวั่นมีอันตรายจากระเบิด
เกิดเหตุเตาแก๊สกระป๋องระเบิดในร้านอาหาร
ทรัมป์ยันจะตอบโต้ หลังทหารมะกัน 2 นาย และ ล่ามพลเรือน 1 ราย เสียชีวิตในซีเรีย
"ฝนดาวตกเจมินิดส์" กับคำอธิษฐานบนฟากฟ้า
ธงไทยโบกสะบัด 14 ธ.ค. 68 เวลา 07.00 น. นาวิกโยธิน ปักธงชาติไทย ยึดคืนและควบคุมพื้นที่บ้านสามหลัง จ.ตราด สำเร็จ!
เหตุผล❗ที่ต้องทำลายสะพานจัยจุมเนี้ยะ ของกัมพูชา
แนะนำ! เว็บไซต์ ai สามารถวาดรูป [l8+](สร้างฟรี) ผู้ใหญ่เท่านั้น
"ฝนดาวตกเจมินิดส์" กับคำอธิษฐานบนฟากฟ้า
เกิดเหตุเตาแก๊สกระป๋องระเบิดในร้านอาหาร
ธงไทยโบกสะบัด 14 ธ.ค. 68 เวลา 07.00 น. นาวิกโยธิน ปักธงชาติไทย ยึดคืนและควบคุมพื้นที่บ้านสามหลัง จ.ตราด สำเร็จ!
ทหารไทยพบหลักฐานชิ้นสำคัญ ซึ่งหลักฐานชิ้นนี้ ยืนยันว่า มี "มหาอำนาจ" แอบส่งอาวุธหนักทันสมัยให้เขมร
“นายกฯ” ยืนยันเดินหน้าทางทหารจนพ้นภัยคุกคาม โต้ “ทรัมป์” ว่าระเบิดไม่ใช่อุบัติเหตุ







