หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ซีซี่ จักรพรรดินีแห่งออสเตรีย-ฮังการี ราชินีผู้ระทมทุกข์ที่สุดในโลก

โพสท์โดย น้องมิ่ง รัตนาภรณ์

            ดัชเชสเอลีซาเบ็ท เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ค.ศ. 1837 ณ ปราสาทโพเซินโฮฟเซิน เมืองมิวนิก ราชอาณาจักรบาวาเรีย เป็นพระธิดาองค์ที่ 2 ในดยุกมัคซีมีลีอาน โยเซฟในบาวาเรีย (พระโอรสองค์เดียวในดยุกพีอุส เอากุสท์แห่งบาวาเรียและเจ้าหญิงอามาลี ลูอีเซอแห่งอาเรินแบร์ค) และเจ้าหญิงลูโดวีกาแห่งบาวาเรีย (พระราชธิดาในพระเจ้ามัคซีมีลีอานที่ 1 โยเซ็ฟแห่งบาวาเรีย และคาโรลีเนอแห่งบาเดิน)          

        เมื่อทรงพระเยาว์ พระองค์มีพระนามเล่นว่า ซีซี่ (Sisi) โดยพระองค์ทรงชอบเล่นผาดโผน ทรงม้าล่าสัตว์ และทรงหลงใหล สนพระทัยในธรรมชาติ พระองค์มีพระเชษฐา 2 พระองค์ พระเชษฐภคินี 1 พระองค์ พระอนุชา 2 พระองค์ และพระขนิษฐา 3 พระองค์ โดยพระบิดาและมารดานั้น โดยเฉพาะพระมารดา ทรงเข้มงวดเรื่องการจัดหาคู่ครองให้พระราชบุตร โดยครั้งแรกนั้น พระมารดาของพระองค์ทรงจัดหาคู่ครองให้ ดัชเชสเฮเลเนอ นั่นคือจักรพรรดิฟรันทซ์ โยเซ็ฟที่ 1 แห่งออสเตรีย พระโอรสในเจ้าหญิงโซฟี ผู้เป็นพระเชษฐภคินีของเจ้าหญิงลูโดวีกา และเป็นพระมาตุจฉาในดัชเชสเฮเลเนอ และดัชเชสเอลีซาเบ็ท โดยทั้ง 3 พระองค์นั้นเสด็จไปแปรพระราชฐานในรัฐอัปเปอร์ ออสเตรีย ประเทศออสเตรีย ตามคำทูลเชิญของเจ้าหญิงโซฟี โดยทั้ง 4 พระองค์ได้หวังว่า จักรพรรดิฟรันทซ์ โยเซ็ฟจะทรงสนพระราชหฤทัยในตัวดัชเชสเฮเลน ซึ่งขณะนั้น จักรพรรดิมีพระชนมายุ 23 พรรษา และดัชเชสเฮเลเนอมีพระชนมายุ 18 ชันษา แต่แทนที่พระองค์จะทรงเลือกดัชเชสเฮเลน ในการเป็นพระมเหสีนั้น พระองค์กลับเลือกดัชเชสเอลีซาเบ็ทแทน ซึ่งขณะนั้นพระองค์มีพระชนมายุเพียงแค่ 15 ชันษา การที่จักรพรรดิเลือกพระองค์เป็นองค์จักรพรรดินีมเหสีนั้น สร้างความประหลาดใจและเสียงคัดค้านจากพระมารดาของทั้งสอง โดยเฉพาะพระมารดาของจักรพรรดิฟรันทซ์ โยเซ็ฟที่ทรงไม่ชอบพระองค์ตั้งแต่ที่จักรพรรดิทรงเลือกที่จะอภิเษกสมรสด้วย หลังจากที่ทั้ง 2 พระองค์ทรงได้พบรู้จักและวิสาสะกันเพียงไม่กี่วัน

            ทั้งสองพระองค์ ทรงเข้าพิธีอภิเษกสมรส เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 1854 ณ มหาวิหารเซนต์ สเตฟาน กรุงเวียนนา โดยหลังจากที่พระองค์ทรงเป็นจักรพรรดินีแห่งออสเตรียแล้ว พระองค์ทรงถูกกีดกัน กลั่นแกล้งต่าง ๆ นานา โดยอาร์ชดัชเชสบางพระองค์ รวมทั้งอาร์ชดัชเชสโซฟี พระสัสสุด้วย เพื่อลดความสำคัญของพระองค์ลงไป แต่พระองค์ก็ทรงได้รับความช่วยเหลือ และความเมตตาจากอาร์ชดยุกและอาร์ชดัชเชสหลายพระองค์ รวมทั้งพระสวามีของพระองค์ด้วย จักรพรรดิฟรันทซ์ โยเซ็ฟ และจักรพรรดินีเอลีซาเบ็ทมีพระราชโอรส 1 พระองค์ และพระราชธิดา 3 พระองค์

            จักรพรรดินีเอลีซาเบ็ท ทรงได้ชื่อว่า เป็นพระจักรพรรดินีที่สิริโฉมงดงามที่สุดในโลก เพราะด้วยพระพักตร์ที่ทรงสิริโฉมงดงาม อีกทั้งพระเกศายาวเกือบจรดพระบาท โดยพระองค์มักจะไม่ออกงานสังคม หรือปฏิบัติพระราชกรณียกิจอันใด เหตุเนื่องจากทรงประทับอยู่แต่ในพระราชวังโฮฟบวร์ค เพื่อบำรุงความงามของพระองค์ โดยนาน ๆ ครั้ง พระองค์จะทรงยอมปรากฏพระองค์ต่อสาธารณชนสักครั้ง ทำให้ทุกครั้งที่เสด็จออกปรากฏพระองค์ พสกนิกรจะคอยรับเสด็จเพื่อชมพระโฉมของพระองค์อย่างแน่นขนัดทุกครั้ง อย่างเช่นครั้งหนึ่ง เสด็จพระราชดำเนินพร้อมกับสมเด็จพระราชสวามีไปยังมหาวิหารเซนต์ สเตฟาน กรุงเวียนนา ปรากฏว่าพสกนิกรมาเฝ้ารับเสด็จจำนวนมาก เหตุที่มาเฝ้ารับเสด็จก็เพราะเนื่องจากอยากเห็นความงามของพระองค์นั่นเอง

            ด้วยความที่ทรงสิริโฉมงดงามนี่เอง ทำให้มีบรรดาอาร์ชดัชเชสหลายพระองค์ รวมทั้งอาร์ชดัชเชสโซฟี พระสัสสุที่ทรงไม่ชอบพระองค์มาตั้งแต่ต้น ทรงคอยให้ร้าย ทรงอิจฉา ริษยาพระองค์ตลอดเวลา ส่วนตัวพระองค์เองจึงทรงหลบพระองค์ไปแปรพระราชฐานที่ต่าง ๆ เช่นเกาะมาไดรา ประเทศโปรตุเกส ฮังการี ประเทศอังกฤษ หรือก็เกาะคอร์ฟู ประเทศกรีซ เพื่อทรงหลีกเลี่ยงเรื่องวุ่นวายทั้งหลายในราชสำนัก และเพื่อทรงพักผ่อนอีกทั้งบำรุงความงามของพระองค์ เพื่อเรียกความมั่นพระทัยในพระองค์กลับคืนมา นอกจากนี้ พระองค์ยังมีพระราชเสาวณีย์โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างอาร์คิลลีออน ที่เกาะคอร์ฟูขึ้น เพื่อทรงใช้เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ (หลังจากที่พระองค์ทรงสวรรคต จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มทรงซื้อไว้เป็นพระราชฐานส่วนพระองค์) โดยเมื่อพระองค์ทรงประทับอยู่ในเกาะคอร์ฟู พระองค์จะมีพระราชเสาวณีย์โปรดให้ครูสอนภาษากรีกมาสอนพระองค์ และนอกจากนี้ พระองค์ยังทรงศึกษาประวัติศาสตร์และความเป็นอยู่ของประชาชน ทำให้พระองค์ทรงเป็นที่รู้จักของประชาชน โดยให้ความสำคัญมากพอๆกับพระมหากษัตริย์ และสมเด็จพระราชินีแห่งกรีซเลยทีเดียว

            พระองค์ไม่ได้ทรงขึ้นชื่อลือชาในเพียงในเรื่องของความงาม เป็นเรื่องของการแต่งฉลองพระองค์ การลดน้ำหนัก และการออกกำลังพระวรกายของพระองค์อีกด้วย ซึ่งพระองค์จะทรงใช้เวลาส่วนใหญ่ทุ่มเทให้กับความงามของพระองค์ โดยจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า พระกฤษฎี หรือบั้นเอวของพระองค์ทรงมีความยาวแค่ 20 นิ้ว หรือ 50 เซนติเมตร พร้อมกับความสูงของพระองค์ 172 เซนติเมตร และน้ำหนัก 50 กิโลกรัม ซึ่งในสมัยปัจจุบันเห็นว่าค่อนข้างน้อยสำหรับความสูงขนาดนี้ ซึ่งด้วยความที่พระองค์ทรงมัวแต่หมกมุ่นเรื่องของความงามงาม พระองค์ทรงไม่สนพระทัยที่ พระสวามีของพระองค์ทรงมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับนักแสดงหญิง คาทารีนา ชแร็ท

            โดยส่วนของพระวรกายที่พระองค์ทรงพอพระทัยมากที่สุดคือ พระเกศาที่ยาวเกือบจรดเท้า ที่พระองค์ทรงใช้เวลาบำรุงรักษาพระเกศาของพระองค์ให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ โดยจะมีพระบัญชาให้ช่างพระเกศาส่วนพระองค์ถักพระเกศาเป็นเปียรวบขึ้นไปม้วนเป็นพระเศียร โดยต้องสระพระเกศาทุกๆ 3 สัปดาห์ ซึ่งแต่ละครั้งใช้เวลาถึง 1 วันเต็มๆ โดยใช้ครีมแชมพูที่คิดดัดแปลงอยู่เรื่อยๆ ส่วนธรรมดาก็จะบำรุงรักษาพระเกศาอีกรูปแบบหนึ่ง โดยใช้เวลาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง ดังนั้น ช่างพระเกศาจึงเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งในราชสำนัก ที่จะคอยสอดส่องดูแลพระเกศาของพระองค์ตลอดเวลา

            ในปี ค.ศ. 1889 พระทัยของพระองค์แทบแตกสลาย เพราะเนื่องจากการเสด็จสวรรคตกะทันหันของพระราชโอรสเพียงพระองค์เดียว มกุฎราชกุมารรูดฌอล์ฟ ซึ่งสวรรคตด้วยทรงต้องพระแสงปืน โดยทรงยิงปลิดพระชนม์ชีพพระองค์เอง และนางสนมลับที่พระองค์ทรงมีความสัมพันธ์ลับด้วย บารอเนสมารี เวทเซรา โดยพระศพถูกพบที่คฤหาสน์ล่าสัตว์มาเยอร์ลิ่ง

หลังจากการสวรรคตของพระราชโอรสแล้ว พระองค์ก็ทรงประพาสแปรพระราชฐานเพื่อในการฟื้นฟูพระทัยให้กลับมาสู่สภาวะปกติ แทนที่พระองค์จะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆพร้อมพระราชสวามี พระองค์ทรงหันกลับมาทำการบำรุงความงามและพระเกศาดังเดิม…

            เมื่อวันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 1898 จักรพรรดินีเอลีซาเบ็ททรงถูกปลงพระชนม์ ณ เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งขณะนั้น พระองค์กำลังทรงพักผ่อนแปรพระราชฐาน พร้อมด้วยนางกำนัลคนสนิท เคานท์เตสสตาร์เรย์ โดยทรงถูกมีดแทงกลางพระหทัยโดยนักอนาธิปไตยนิยม ลุยกี ลูเชนี โดยเมื่อลูเชนีถูกนำตัวขึ้นศาล เขากล่าวว่าจะปลงพระชนม์พระบรมวงศานุวงศ์ราชวงศ์ออร์เลอ็องของฝรั่งเศสเท่านั้น โดยเขาคิดว่าพระองค์คือพระบรมวงศานุวงศ์ฝรั่งเศส แต่หลังจากนั้น เขาพูดว่า "ฉันอยากฆ่าราชวงศ์ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม" ศาลจึงตัดสินให้ประหารชีวิตลุยกี ลูเชนี

            ส่วนพระศพของพระองค์ถูกย้ายมายังกรุงเวียนนา โดยเมื่อมาถึงตัวเมือง ประชาชนต่างมีความโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง และมาเฝ้ารับเสด็จเป็นครั้งสุดท้าย โดยเฉพาะกับจักรพรรดิฟรันทซ์ โยเซ็ฟ พระราชสวามี ผู้ทรงเหมือนพระหทัยแตกสลายไปตลอดกาล พระบรมศพถูกฝังที่อิมพีเรียล คริปต์ ซึ่งเป็นสถานที่ฝังพระศพพระบรมวงศานุวงศ์ออสเตรียมาช้านาน

โพสท์โดย: น้องมิ่ง รัตนาภรณ์
อ้างอิงจาก:
https://youtu.be/g2sQP9Do6fo?si=q-gUhG4Q1aJ4RjtZ
wikipedia
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
น้ำมันตับปลา ยาอายุวัฒนะจากท้องทะเลลึก สู่ช้อนชาในโรงเรียนอังกฤษ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
“เดือดสนั่นวงการ! MGI สั่งปลดฟ้าผ่า ‘แตแต’ มิสแกรนด์เมียนมา แฟนนางงามสะเทือน!”"หมูเด้ง" ทายผลว่า "ทรัมป์" จะชนะการตั้งมะกันสะเทือนใจ! เด็กถูกสุนัขกัดกลางถนน ไม่มีใครช่วย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
ตำนาน และประวัติความเป็นมา ของอำเภอเถิน จังหวัดลำปางเนียงต็วลสัตรา ตำนานปราสาทบ้านพลวง (อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์)บ้านแห่งความตายSchindler's List (1993)ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริง!!!
ตั้งกระทู้ใหม่