รีวิวหนังดัง BLADE 2 เบลด 2 พันธุ์ฆ่าอมตะ
พันธุ์อมตะ (Daywalker) กลับมาอีกครั้ง ปี 2002 หนัง Marvel ที่มีความเป็น Sci fi Horror แถมมีฉาก Action ที่ผสมผสาน Matial Arts ด้วยคือ BLADE 2 หนังล่าแวมไพร์ผีดิบที่ยกระดับไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัวนักล่าของห่วงโซ่อาหารคนใหม่อย่าง Reaper สายพันธุ์ทั้งกระหายเลือดมนุษย์และแวมไพร์
ในภาคนี้ได้ Guillermo del Toro รับหน้าที่กำกับการแสดง พร้อมการต่อสู้ประชิดตัวที่จัดเต็มกว่าภาคแรก
เรื่องย่อ
หลังจากที่ Blade ช่วยชีวิตของ Whistler ผู้ที่นับถือเหมือนพ่อสำเร็จ ผู้เป็นตัวแทนแวมไพร์ Nyssa และ Asad ก็ส่งสาสน์ยุติขอพักรบกับ Blade และขอให้ช่วยตามล่าพวก Reaper สายพันธุ์ที่เหนือกว่าแวมไพร์ กระหายเลือดทั้งวัน แวมไพร์ก็เป็นเหยื่อกับเขาไปด้วย
โดยเฉพาะ Nomak ที่เกลียดแวมไพร์เข้ากระดูกดำ เขาต้องการล่าเจ้าแห่งแวมไพร์อย่าง Damaskinos ซึ่งถือว่าเป็นหนี้แค้นส่วนตัว
Blade ได้ผู้ช่วยนักประดิษฐ์และเจ้าแห่ง IT คนใหม่มาช่วยอย่าง Scud พร้อมกับทีม Bloodpack ทีมใหม่ที่เป็นแวมไพร์ เดิมตั้งใจจะมาล่า Blade แต่กลับต้องมาร่วมมือกับ Blade แทน
สมาชิกในทีมประกอบด้วย Reinhardt, Chupa, Snowman, Priest, Lighthammer
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ Blade ไม่รู้คือ Damaskinos ตั้งใจจะหลอกใช้งานมากกว่านั้น คือหาทางข้ามสายพันธุ์ลบจุดอ่อนของผีดิบแวมไพร์ให้ทนแดด ทนแร่เงินได้ ไร้จุดอ่อน
นักแสดงนำ
- Wesley Snipes รับบทเป็น Blade
- Kris Kristofferson รับบทเป็น Whistler
- Ron Perlman รับบทเป็น Reinhardt
- Leonor Varela รับบทเป็น Nyssa
- Norman Reedus รับบทเป็น Scud
- Thomas Kretschmann รับบทเป็น Damaskinos
- Luke Goss รับบทเป็น Nomak
- Matt Schulze รับบทเป็น Chupa
- Donnie Yen รับบทเป็น Snowman
ความชื่นชอบและประทับใจของครีเอเตอร์
1.Plot เรื่องของหนังน่าสนใจมาก ยกระดับให้ลืมสิ่งที่เราคิดว่ารู้จากภาคแรก มันเป็นศึกของสองฝ่ายที่แม้แต่พวกเดียวกันแท้ๆยังต้องระแวงกันเอง อีกทั้งสายพันธุ์อย่างพวก Reaper ยังฆ่าได้ยากมากอีกด้วย
2.Whistler เปรียบเสมือน Alfred ใน Batman เขาเป็นคนสำคัญที่ต้องคอยเป็นหูเป็นตาให้กับ Blade อีกทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์และอาวุธสารพัดอย่างให้พร้อมใช้งาน เขาจึงเป็นตัวละครที่ขาดไม่ได้ถ้าต้องมีภาคต่อ ก็ต้องมี Whistler ซึ่งการกลับมาของเขาก็ไม่ได้สร้างความรู้สึกยัดเยียดแต่อย่างใด
3.การต่อสู้ประชิดตัวจัดหนักกว่าภาคแรก แต่ด้วยเทคนิคภาพที่ทำให้ดูเหมือนการ์ตูนมากเกินไปเวลาที่ตัวละครกระโดดสูงต่อกรกับคู่ต่อสู้ ทำให้รู้สึกด้อยกว่าภาคแรก สิ่งที่ภาคแรกทำได้ดีกว่าคือความเท่ของ Blade โดยเฉพาะท่ากระโดดลงจอด (Superhero landing) บอกเลยว่าเท่กว่าคนอื่นเยอะ กลายเป็นภาพจำที่หนังเรื่องอื่นไม่กล้าลอกเลียน
4.กิมมิกการทำงานของผู้กำกับ Guillermo del Toro จะเน้นตัวละครที่ดูมีความเป็นแฟนตาซีเจือสยองนิดๆ สิ่งนี้เราจะได้เห็นจากตัวละครอย่าง Nomak และ Damaskinos ซึ่งมันชัดเจนมากถึงลักษณะการออกแบบของตัวละครดังกล่าว
5.ดนตรีประกอบจาก Marco Beltrami ให้อารมณ์เข้ากับหนังได้ดี ดีจนกระทั่งละครโทรทัศน์ในไทยสมัยก่อนยังต้อง Copy ไปใช้
6.การแสดงของทุกคนถือว่าเข้าขั้น ที่เตะตากว่าใครและครีเอเตอร์ให้ความสนใจเป็นพิเศษคือ Donnie Yen คงเป็นเพราะเขาดังใน Hollywood ในช่วงระยะหลังมานี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครสนใจเขาเลย