รอยยิ้มครั้งสุดท้ายของหญิงผู้กล้าหาญ ที่กลายมาเป็นตำนานของประเทศจีน
Cheng Benhua (เฉิงเปิ่นฮวา)
เป็นนักรบกองโจรชาวจีนผู้กล้าหาญ ผู้เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์
ซึ่งกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการท้าทายและความกล้าหาญ
ในช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง เฉิงเกิดในครอบครัวที่ยากจนในมณฑลหูหนาน
เติบโตมาในสังคมที่เต็มไปด้วยความไม่เท่าเทียมและการรุกรานจากต่างชาติ
ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เธอมุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่อการปลดปล่อยประเทศ
เธอเข้าร่วมขบวนการปฏิวัติตั้งแต่ยังเป็นหญิงสาว และพิสูจน์ตัวเองได้อย่างรวดเร็ว
ว่าเธอเป็นผู้นำที่ชำนาญในการต่อต้านการยึดครองของญี่ปุ่น
ในช่วงเวลาที่เธออยู่ในขบวนการต่อต้าน เฉิงมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้ง
ในการระดมพลชุมชนในท้องถิ่น จัดระเบียบปฏิบัติการกองโจร
และเผยแพร่ข้อความปฏิวัติ ความมุ่งมั่นและเสน่ห์ของเธอทำให้เธอ
ได้รับความเคารพจากทั้งสหายร่วมอุดมการณ์และชาวบ้าน อย่างไรก็ตาม
เฉิงถูกกองกำลังญี่ปุ่นจับกุมระหว่างปฏิบัติภารกิจลับ การจับกุมของเธอ
ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทดสอบที่น่ากลัว เฉิงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างไม่ลดละ
แต่เธอกลับปฏิเสธที่จะทรยศต่อสหายร่วมรบหรือเปิดเผยข้อมูลเชิงกลยุทธ์ใดๆ
การนิ่งเฉยของเธอภายใต้การกดดันเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความภักดี
และความกล้าหาญที่ไม่สั่นคลอนของเธอ
ช่วงเวลาแห่งมรดกที่คงอยู่ของเฉิงมาถึงในวันที่เธอถูกประหารชีวิต
โดยถูกญี่ปุ่นนำตัวไปประหารชีวิต เธอยังคงสงบนิ่งและนิ่งสงบ
ไม่แสดงความกลัวหรือเสียใจใดๆ เมื่อเธอยืนอยู่ต่อหน้าผู้จับกุม
เธอยิ้ม ซึ่งเป็นการท้าทายอย่างลึกซึ้งเมื่อเผชิญกับความตายที่ใกล้เข้ามา
รอยยิ้มของเธอไม่ใช่การยอมแพ้แต่เป็นรอยยิ้มแห่งชัยชนะ เป็นการแสดงออกครั้งสุดท้าย
ถึงจิตวิญญาณที่ไม่สั่นคลอนและความเชื่อมั่นในความถูกต้องของเหตุผลของเธอ
เป็นข้อความที่เงียบงันแต่ทรงพลังถึงศัตรูของเธอ โดยประกาศว่าพวกเขา
สามารถเอาชีวิตเธอไปได้ แต่ไม่สามารถเอาหลักการ
หรือความหวังของเธอสำหรับประเทศจีนที่เป็นอิสระได้
การประหารชีวิตเฉิงเปิ่นฮวาถือเป็นจุดจบของชีวิตเธอ
แต่เป็นจุดเริ่มต้นของมรดกของเธอในฐานะวีรบุรุษและผู้พลีชีพของชาติ
เรื่องราวการต่อต้านและความสงบนิ่งอันน่าทึ่งของเธอเมื่อเผชิญกับความตาย
ยังคงสร้างแรงบันดาลใจให้กับชาวจีนหลายชั่วอายุคน เธอเป็นสัญลักษณ์
ของจิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้ของผู้ที่ต่อสู้กับการกดขี่และความอยุติธรรม
เป็นตัวแทนของความกล้าหาญและความอดทนที่จำเป็นในการยืนหยัด
แม้ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด รอยยิ้มของเธอที่หยุดนิ่งอยู่กับประวัติศาสตร์
ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงพลังถึงความสามารถของมนุษย์
ในการต่อต้านการกดขี่ด้วยศักดิ์ศรีและความมุ่งมั่น