อาการนอนแบบหลับ ๆ ตื่น ๆ “Middle Insomnia” ตื่นกลางดึก นอนต่อไม่หลับ อาการหลับไม่สนิทที่อันตรายต่อสุขภาพ
อาการนอนแบบหลับ ๆ ตื่น ๆ “Middle Insomnia” คือ อาการตื่นกลางดึกในเวลาเดิมซ้ำ ๆ และกว่าจะกลับไปนอนดังเดิมได้ ก็อาจต้องใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 2 ชั่วโมงหรือมากกว่า บางคนอาจถึงขั้นนอนหลับต่อไม่ได้จนถึงเช้า อาการจะมีทั้งที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวและแบบเรื้อรัง
เช็กอาการนอนแบบหลับ ๆ ตื่น ๆ นอนหลับแบบไม่สนิท
- มีอาการนอนหลับไม่สนิทร่วมกับการนอนหลับยาก ใช้เวลามากกว่า 20 นาทีเพื่อให้ตนเองหลับ
- ตื่นกลางดึกบ่อยและถี่ มักตื่นในทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง
- เมื่อตื่นกลางดึกบ่อย ๆ แล้วมักจะหลับต่อได้ยาก
- นอนไม่หลับและหลับ ๆ ตื่น ๆ เกิน 3 วันต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลานานกว่า 3 เดือน
- รู้สึกว่าการหลับ ๆ ตื่น ๆ เริ่มส่งผลต่อชีวิตประจำวัน อย่างเช่น ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง ป่วยง่าย เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน มีอาการหลง ๆ ลืม ๆ การตัดสินใจแย่ลง สมาธิสั้น และเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
8 สาเหตุสำคัญของการนอนหลับไม่สนิท
1.ความเครียด ความเครียดและความวิตกกังวลในเรื่องต่าง ๆ ทั้งจากการทำงานหรือเรื่องราวที่ได้พบเจอในชีวิตประจำวันเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เรานอนไม่หลับหรือมีอาการนอนหลับไม่สนิท ตื่นบ่อยหลาย ๆ ครั้ง
2.ปัญหาจากสภาพแวดล้อม สภาพแวดล้อมที่ไม่ดีจะเป็นสิ่งกระตุ้นให้นอนหลับไม่ลึก ตื่นบ่อยหรืออยู่ในภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่นในตอนกลางคืน โดยสภาพแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อการนอนหลับ ทำให้มีอาการนอนหลับไม่สนิทมีดังนี้
- มีแสงไฟเล็ดลอดเข้ามารบกวน
- อุณหภูมิในห้องเย็นหรือร้อนเกินไป
- อากาศภายในห้องไม่ไหลเวียน
- มีความชื้นภายในห้องมากเกินไป
- มีฝุ่นและมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ อย่างเช่น กลิ่นอับ กลิ่นเหม็นชื้น
- มีสัตว์เลี้ยงภายในห้อง
- มีเสียงรบกวน อย่างเช่น เสียงการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า เสียงหายใจของคู่นอน เสียงรบกวนจากภายนอก เป็นต้น
- เตียงนอนไม่สบายตัว แข็งหรือนิ่มเกินไป
3.การปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน โดยทั่วไปแล้วจำนวนรอบของการปัสสาวะตอนกลางคืนของคนปกติจะอยู่ที่ 1-2 ครั้ง และใน 1 วันควรมีการปัสสาวะไม่เกิน 8 ครั้ง ถ้าจำนวนครั้งในการปัสสาวะมากกว่านี้อาจเข้าข่ายว่ามีการปัสสาวะบ่อยเกินไป ซึ่งอาจจะเป็นอาการของโรคต่าง ๆ ได้ อย่างเช่น
- มีปัญหาของระบบทางเดินปัสสาวะโดยตรง
- มีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
- มีเนื้องอกที่ต่อมลูกหมาก
- มีเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ
- หูรูดกระเพาะปัสสาวะทำงานไม่ดี
- เป็นโรคเบาหวาน
- เป็นโรคไต อย่างเช่น ไตวาย เป็นต้น
4.โรคนอนไม่หลับ อาการของโรคนอนไม่หลับจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
- นอนหลับยาก
- นอนหลับไม่ทน หรือการตื่นกลางดึกบ่อย ๆ
- นอนหลับ ๆ ตื่น ๆ หรือการได้นอนหลับแต่ไม่ได้หลับลึก รู้สึกเหมือนไม่ได้นอนอย่างเต็มอิ่ม
ผู้ที่เป็นโรคนอนไม่หลับอาจมีอาการเพียงข้อใดข้อหนึ่ง หรือมีอาการจากหลาย ๆ ข้อรวมกันก็ได้
5.ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เนื่องจากการหยุดหายใจในขณะหลับอยู่บ่อย ๆ จะทำให้หายใจไม่สะดวก หายใจติดขัด หรือมีการสำลัก ส่งผลให้นอนหลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดทั้งคืน โดยผู้ที่มีอาการหลับไม่สนิทเพราะภาวะหยุดหายใจขณะหลับนั้นมักจะมีอาการเหล่านี้ร่วมกับการหลับ ๆ ตื่น ๆ
- กรนเสียงดังผิดปกติ
- รู้สึกเจ็บคอเมื่อตื่นนอน
- รู้สึกปากแห้งเมื่อตื่นนอน
- รู้สึกกระสับกระส่ายในขณะนอนหลับ
- มีอาการชักในขณะนอนหลับ
- ปวดหัวบ่อย ๆ เวลาตื่นนอน
6.อาการของโรคหรือปัญหาสุขภาพที่เป็นอยู่ โรคที่ส่งผลให้มีอาการต่าง ๆ เหล่านี้
- อาการคัน
- อาการหายใจไม่สะดวก
- อาการไอ
- อาการปวดข้อ ปวดกระดูก หรือกล้ามเนื้อ
- อาการท้องผูก แน่นท้อง
- อาการอาหารไม่ย่อย กรดไหลย้อน
- อาการปวดหัวและปวดท้องอย่างรุนแรง เป็นต้น
7.พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม พฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเครียด และพฤติกรรมอื่น ๆ ที่ส่งผลให้เรามีอาการหลับ ๆ ตื่นตลอดทั้งคืน ดังนี้
- เล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอน
- สูบบุหรี่
- ออกกำลังกายหนักเกินไป
- ดื่มหรือรับประทานอาหารที่มีคาเฟอีน
- กินอาหารมื้อหนัก ๆ ก่อนนอน
- ดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้านอน
8.ผลข้างเคียงจากการรับประทานยาบางชนิด ยาบางชนิดที่ออกฤทธิ์โดยส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลางหรือสมองอาจส่งผลกระทบต่อการนอนหลับ อย่างเช่น
- ยารักษาโรคพาร์กินสัน
- ยาไทรอยด์
- ยาแก้ชัก
- ยารักษาโรคซึมเศร้า
- ยาสเตียรอยด์
- ยารักษาภาวะสมองเสื่อม
- ยาที่ใช้ในการรักษาความผิดปกติของการหายใจ อย่างเช่น ยารักษาโรคหอบหืด โรคหลอดลมอักเสบ และโรคถุงลมโป่งพองเรื้อรัง
- ยาโรคหัวใจบางชนิด
- ยาโรคข้ออักเสบที่มีแอสไพรินเป็นส่วนผสม เนื่องจากอาจทำให้มีอาการปวดท้องตอนกลางคืนจากการระคายเคืองของกระเพาะอาหารและเป็นกรดไหลย้อน ทำให้ผู้ใช้อาจมีการสะดุ้งตื่นกลางดึกอยู่บ่อย ๆ
วิธีแก้ปัญหาอาการนอนหลับไม่สนิท อาการหลับ ๆ ตื่น ๆ
- ฝึกนอนให้เป็นเวลา โดยการเข้านอนและตื่นนอนในเวลาเดิม
- ผ่อนคลายความเครียดด้วยการทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเช่น อ่านหนังสือเบาสมอง นั่งสมาธิ เขียนไดอารี่ประจำวัน เป็นต้น
- จัดการกับสภาพแวดล้อมภายในห้องนอนให้เหมาะสมต่อการนอนหลับมากที่สุด ทั้งแสง เสียง อุณหภูมิ
- หากไม่สามารถจัดการกับสภาพแวดล้อมในห้องนอนได้ ควรใช้หน้ากากปิดตาเพื่อป้องกันแสง หรือที่อุดหูเพื่อป้องกันเสียงรบกวน
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเว้นระยะห่างจากเวลาเข้านอนอย่างน้อย 5 ชั่วโมง
- รับประทานอาหารให้เหมาะสม ครบถ้วน และมีประโยชน์ต่อร่างกาย
- ปิดโทรศัพท์มือถือและเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด หรือตั้งเป็นโหมดห้ามรบกวนก่อนเข้านอน
- เลี่ยงการนอนกลางวันเพื่อลดปัญหาอาการนอนหลับไม่สนิท ตื่นบ่อย ๆ หากมีอาการง่วงระหว่างวันมาก ๆ อาจกำหนดเวลางีบไม่เกิน 20 นาทีในช่วงเที่ยง (อย่านอนตอนบ่าย-เย็น)
- อย่าทำกิจกรรมอื่น ๆ นอกจากการนอนบนเตียงนอน
- ไม่ควรเล่นโทรศัพท์มือถือ หรือ Notebook บนเตียงนอน
- เลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนเข้านอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
- อย่าทำสิ่งต่าง ๆ ที่ส่งผลให้มีความเครียดเพิ่มขึ้น
- อย่าทำกิจกรรมกระตุ้นสมอง เช่น ฟังเพลงดัง ๆ ดูภาพยนตร์สยองขวัญ การเล่นเกม
- งดการออกกำลังกายหนัก ๆ ในช่วงก่อนเข้านอน
- งดการรับประทานอาหารมื้อใหญ่ ในปริมาณมากก่อนเข้านอน
- เลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อย่างเช่น กาแฟ ชา โกโก้ รวมถึงเครื่องดื่มชูกำลัง และน้ำอัดลมบางชนิด
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้านอน
- งดการสูบบุหรี่



















