Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

จริงๆ แล้วคนจีนกินเจเยอะไหม? แล้วกินเจเป็นความเชื่อมาจากไหน?

เนื้อหาโดย รู้ไว้ใช่ว่า by News Daily TH

เทศกาลกินเจ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "เทศกาลกิ้วอ๋องเซ่งโห่ย" (Nine Emperor Gods Festival) เป็นประเพณีสำคัญที่ปฏิบัติกันอย่างแพร่หลาย ในหมู่ชาวจีนทั่วโลก โดยเฉพาะในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไทย แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่า ชาวจีนในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่กินเจกันหรือไม่ และความเชื่อเรื่องการกินเจนี้มีที่มาอย่างไร ความเชื่อนี้เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธหรือลัทธิเต๋าอย่างไร และมีประโยชน์ต่อสุขภาพจริงหรือไม่

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ความเชื่อ และการปฏิบัติของการกินเจในวัฒนธรรมจีน รวมถึงการแพร่กระจายของประเพณีนี้ไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก พร้อมทั้งวิเคราะห์ผลกระทบต่อสุขภาพจากมุมมองทางการแพทย์และโภชนาการสมัยใหม่

ความเชื่อการกินเจมาจากไหน

การกินเจในวัฒนธรรมจีนมีรากฐานมาจากความเชื่อทางศาสนาและปรัชญาหลายแขนง โดยเฉพาะพุทธศาสนานิกายมหายาน ลัทธิเต๋า และแนวคิดของขงจื๊อ ซึ่งล้วนมีอิทธิพลต่อการกำหนดวิถีชีวิตและพฤติกรรมการบริโภคของชาวจีน

อิทธิพลจากพุทธศาสนา

ในพุทธศาสนา โดยเฉพาะนิกายมหายาน มีคำสอนเรื่องอหิงสา (การไม่เบียดเบียนสัตว์) และความเมตตากรุณาต่อสรรพชีวิต การละเว้นจากการบริโภคเนื้อสัตว์จึงถือเป็นการปฏิบัติที่สอดคล้องกับหลักคำสอนดังกล่าว

ศาสตราจารย์ Yu Shuenn-Der นักมนุษยวิทยาจากสถาบัน Academia Sinica ในไต้หวัน อธิบายว่า "การกินเจในพุทธศาสนานิกายมหายานมีความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากเชื่อว่าการงดเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์จะช่วยชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ และเป็นการสร้างกุศลด้วยการไม่เบียดเบียนชีวิตอื่น"

งานวิจัยของ Dr. Eric Yu (2012) จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เรื่อง "Buddhist Influence on Chinese Food Culture" ระบุว่า พุทธศาสนานิกายมหายานเข้ามามีอิทธิพลในประเทศจีนตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (25-220 ค.ศ.) และได้มีการผสมผสานกับความเชื่อดั้งเดิมของจีน ทำให้เกิดรูปแบบการปฏิบัติที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงการถือศีลกินเจในช่วงเวลาสำคัญต่างๆ

อิทธิพลจากลัทธิเต๋า

ลัทธิเต๋ามีความเชื่อเรื่องความสมดุลของพลังหยิน-หยาง และมองว่าการรับประทานอาหารมีผลต่อสมดุลของพลังงานในร่างกาย ในบางช่วงเวลา โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญทางศาสนา การงดเว้นเนื้อสัตว์ถือเป็นวิธีหนึ่งในการปรับสมดุลพลังงานและชำระร่างกายให้บริสุทธิ์

ศาสตราจารย์ Livia Kohn ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสนาเต๋าจากมหาวิทยาลัยบอสตัน กล่าวในหนังสือ "Daoist Dietetics: Food for Immortality" (2010) ว่า "ในลัทธิเต๋า อาหารไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งที่ใช้หล่อเลี้ยงร่างกาย แต่ยังเป็นวิธีการในการบรรลุความเป็นอมตะ (immortality) ด้วย การงดเว้นเนื้อสัตว์และการบริโภคพืชบางชนิดเชื่อว่าจะช่วยยืดอายุและเสริมสร้างพลังชี่"

เทศกาลกิ้วอ๋องเซ่งโห่ย หรือเทศกาลกินเจที่ปฏิบัติกันในปัจจุบัน มีความเชื่อมโยงกับลัทธิเต๋าอย่างชัดเจน โดยเป็นการบูชาเทพเจ้าทั้งเก้า หรือ "กิวหงฮุกโจ้ว" (Jiu Huang Xing Jun หรือ Nine Emperor Gods) ซึ่งเชื่อว่าเป็นดวงดาวเก้าดวงในทางเต๋า เทพเจ้าเหล่านี้จะลงมาเยือนโลกมนุษย์ในช่วงเดือน 9 ตามปฏิทินจันทรคติจีน

การผสมผสานความเชื่อ

ในความเป็นจริง การกินเจในวัฒนธรรมจีนเป็นผลมาจากการผสมผสานความเชื่อทั้งจากพุทธศาสนา ลัทธิเต๋า และความเชื่อพื้นบ้านดั้งเดิม ดร.จาง เหวินหลิน (Dr. Zhang Wenlin) นักประวัติศาสตร์อาหารจากมหาวิทยาลัยฟู่ตั้น อธิบายว่า "วัฒนธรรมการกินเจของจีนไม่ได้มาจากแหล่งเดียว แต่เป็นการหลอมรวมอิทธิพลจากหลายความเชื่อเข้าด้วยกัน ซึ่งมีวิวัฒนาการมาหลายพันปี"

งานวิจัยของ Professor Roel Sterckx (2019) จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เรื่อง "Food, Sacrifice, and Sagehood in Early China" ได้แสดงให้เห็นว่า แม้แต่ก่อนการเข้ามาของพุทธศาสนา ชาวจีนบางกลุ่มก็มีการงดเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ในบางช่วงเวลาเพื่อวัตถุประสงค์ทางพิธีกรรมและการชำระล้างตนเองทางจิตวิญญาณ

การกินเจในจีนแผ่นดินใหญ่

ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ การกินเจตามเทศกาลกิ้วอ๋องเซ่งโห่ยไม่ได้แพร่หลายเท่ากับในชุมชนจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้เนื่องจากในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม (1966-1976) มีการกวาดล้างความเชื่อทางศาสนาและประเพณีดั้งเดิม ทำให้ความนิยมในการปฏิบัติตามความเชื่อเหล่านี้ลดลง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา มีการฟื้นฟูความสนใจในวัฒนธรรมดั้งเดิม รวมถึงการกินเจในบางภูมิภาค โดยเฉพาะในมณฑลทางภาคใต้ เช่น ฮกเกี้ยน กวางตุ้ง และไหหลำ

จากการสำรวจของสถาบันวิจัยอาหารแห่งจีน (China Food Research Institute) ในปี 2022 พบว่ามีประชากรชาวจีนประมาณ 50 ล้านคน หรือประมาณ 3.5% ของประชากรทั้งหมด ที่ระบุว่าตนเองเป็นมังสวิรัติหรือกินเจเป็นประจำ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 2% ในปี 2010

คนจีนในปัจจุบันกินเจหรือไม่

ในปัจจุบัน การกินเจในหมู่ชาวจีนทั้งในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่และในชุมชนจีนทั่วโลกมีความหลากหลายและแตกต่างกันไปตามภูมิภาคและความเชื่อส่วนบุคคล

การกินเจในชุมชนจีนโพ้นทะเล

ในชุมชนจีนโพ้นทะเล โดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เทศกาลกินเจยังคงได้รับความนิยมและมีการปฏิบัติอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์

ในประเทศไทย เทศกาลกินเจเป็นประเพณีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีการจัดงานเทศกาลกินเจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก มีผู้เข้าร่วมหลายแสนคนในแต่ละปี

รองศาสตราจารย์ ดร.เสาวภา พรสิริพงษ์ นักมนุษยวิทยาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า "เทศกาลกินเจในประเทศไทยมีลักษณะพิเศษที่ผสมผสานระหว่างความเชื่อดั้งเดิมของจีนกับวัฒนธรรมไทย ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างจากในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่"

แนวโน้มการกินเจในกลุ่มคนรุ่นใหม่

ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่และในชุมชนจีนทั่วโลก การกินเจกำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น แต่ด้วยเหตุผลที่แตกต่างจากคนรุ่นก่อน โดยเน้นที่ประโยชน์ต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากกว่าความเชื่อทางศาสนา

งานวิจัยของ Dr. Willa Zhen (2020) จากสถาบันอาหารโลก Culinary Institute of America เรื่อง "Food Studies and Asian American Studies" พบว่า คนรุ่นใหม่เชื้อสายจีนในสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะกลับมาสนใจการกินเจตามวัฒนธรรมดั้งเดิม แต่ด้วยมุมมองใหม่ที่เชื่อมโยงกับกระแสรักสุขภาพและความยั่งยืน

ในจีนแผ่นดินใหญ่ บริษัทวิจัยตลาด Daxue Consulting รายงานในปี 2023 ว่า ตลาดอาหารมังสวิรัติและอาหารเจในจีนมีมูลค่าสูงถึง 2 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 9 หมื่นล้านบาท) และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี โดยกลุ่มผู้บริโภคหลักคือคนรุ่นใหม่ที่มีการศึกษาสูงและอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่

มีประเทศไหนบ้างที่นิยมกินเจ

การกินเจหรือการบริโภคอาหารมังสวิรัติไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในวัฒนธรรมจีนเท่านั้น แต่ยังพบในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไปทั้งด้านศาสนา วัฒนธรรม สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม

มีประเทศไหนบ้างที่นิยมกินเจ

การกินเจหรือการบริโภคอาหารมังสวิรัติไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในวัฒนธรรมจีนเท่านั้น แต่ยังพบในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไปทั้งด้านศาสนา วัฒนธรรม สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม

อินเดีย: ดินแดนแห่งมังสวิรัติ

อินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรมังสวิรัติมากที่สุดในโลก โดยมีประชากรประมาณ 30-40% ที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ หรือราว 400 ล้านคน ซึ่งมากกว่าจำนวนมังสวิรัติในทุกประเทศรวมกัน

ความนิยมในการกินมังสวิรัติในอินเดียมีรากฐานมาจากหลักคำสอนในศาสนาฮินดู เช่น หลักอหิงสา (การไม่เบียดเบียน) และความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด รวมถึงแนวคิดเรื่องความบริสุทธิ์และมลทิน

ศาสตราจารย์ Arvind Sharma จากมหาวิทยาลัย McGill ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสนาฮินดู กล่าวว่า "ในวรรณะพราหมณ์ซึ่งเป็นวรรณะสูงสุดในระบบวรรณะของฮินดู การไม่บริโภคเนื้อสัตว์ถือเป็นการปฏิบัติที่สำคัญเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ทางพิธีกรรม"

ในศาสนาเชน ซึ่งเป็นศาสนาที่แยกตัวออกมาจากฮินดู การกินมังสวิรัติเป็นข้อปฏิบัติที่เข้มงวดมาก โดยผู้นับถือศาสนาเชนจะหลีกเลี่ยงแม้แต่การบริโภคพืชหัวและรากบางชนิด เนื่องจากการเก็บเกี่ยวอาจทำให้สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ในดินต้องตาย

ไต้หวัน: แดนมังสวิรัติแห่งเอเชียตะวันออก

ไต้หวันเป็นประเทศที่มีสัดส่วนประชากรมังสวิรัติสูงที่สุดในเอเชียตะวันออก โดยมีประชากรประมาณ 13-14% ที่เป็นมังสวิรัติหรือกินเจเป็นประจำ อิทธิพลสำคัญมาจากพุทธศาสนานิกายมหายานที่มีบทบาทสำคัญในสังคมไต้หวัน

นิกายฉือกวง (Tzu Chi) ซึ่งเป็นองค์กรพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการกินมังสวิรัติ โดยผู้ก่อตั้ง ภิกษุณีเฉิง เหยียน (Master Cheng Yen) ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการกินมังสวิรัติเพื่อส่งเสริมความเมตตากรุณาและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ดร.มาร์คัส ลี (Dr. Marcus Lee) นักสังคมวิทยาจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน กล่าวว่า "ไต้หวันมีวัฒนธรรมอาหารมังสวิรัติที่พัฒนามาอย่างยาวนาน ทำให้อาหารมังสวิรัติแบบไต้หวันมีความหลากหลายและรสชาติดีมาก จนเป็นที่ยอมรับแม้แต่ในหมู่ผู้ที่ไม่ได้กินมังสวิรัติเป็นประจำ"

การศึกษาของ Digitimes Research ในปี 2021 พบว่า ไต้หวันมีร้านอาหารมังสวิรัติมากกว่า 6,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงมากเมื่อเทียบกับขนาดประชากร นอกจากนี้ยังมีซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เน้นขายสินค้ามังสวิรัติโดยเฉพาะอีกหลายร้อย สาขา

ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การกินเจได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศที่มีชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์

ในประเทศไทย เทศกาลกินเจเป็นเทศกาลสำคัญที่ได้รับความนิยมทั้งในหมู่ชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวไทยทั่วไป โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต พังงา ตรัง และกรุงเทพฯ การวิจัยโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยในปี 2022 พบว่า ในช่วงเทศกาลกินเจ มีมูลค่าการบริโภคอาหารเจสูงถึง 45,000-50,000 ล้านบาท และมีประชาชนเข้าร่วมถือศีลกินเจมากกว่า 30% ของประชากรทั้งประเทศ

รองศาสตราจารย์ ดร.วรรณา อุดมรัตน์ จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต กล่าวว่า "เทศกาลกินเจที่ภูเก็ตมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 150 ปี และได้รับการยอมรับว่าเป็นงานเทศกาลกินเจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการจัดขบวนแห่ การทรงเจ้า และพิธีกรรมต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์"

ในมาเลเซียและสิงคโปร์ เทศกาลกินเจหรือที่เรียกว่า "Nine Emperor Gods Festival" เป็นเทศกาลสำคัญในชุมชนชาวจีน โดยเฉพาะกลุ่มที่พูดภาษาฮกเกี้ยนและแต้จิ๋ว

อิสราเอลและตะวันออกกลาง

อิสราเอลเป็นประเทศที่มีสัดส่วนประชากรมังสวิรัติและวีแกนสูงที่สุดประเทศหนึ่งในโลก โดยมีประชากรประมาณ 5-8% ที่เป็นมังสวิรัติ และอีก 5% ที่เป็นวีแกน

อิทธิพลสำคัญมาจากกฎการรับประทานอาหารคาเชอร์ (Kosher) ในศาสนายูดาย ซึ่งมีข้อกำหนดเข้มงวดเกี่ยวกับการบริโภคเนื้อสัตว์ ทำให้หลายคนเลือกที่จะกินมังสวิรัติเพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากในการปฏิบัติตามกฎคาเชอร์

นอกจากนี้ อาหารตะวันออกกลางดั้งเดิมหลายอย่าง เช่น ฮุมมุส ฟาลาเฟล และตาบูเล่ห์ เป็นอาหารมังสวิรัติอยู่แล้ว ทำให้การกินมังสวิรัติในภูมิภาคนี้เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย

ยุโรปและอเมริกาเหนือ

ในยุโรปและอเมริกาเหนือ การกินมังสวิรัติและวีแกนกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสุขภาพ จริยธรรมในการปฏิบัติต่อสัตว์ และสิ่งแวดล้อม

สหราชอาณาจักรมีสัดส่วนประชากรวีแกนสูงที่สุดในยุโรป โดยมีประชากรประมาณ 1.5% ที่เป็นวีแกน และอีก 7% ที่เป็นมังสวิรัติ ตามรายงานของ The Vegan Society ปี 2022

ในเยอรมนี การสำรวจของ Allensbach Institute ในปี 2022 พบว่า มีประชากรประมาณ 8% ที่เป็นมังสวิรัติ และจำนวนผู้บริโภคที่ลดการบริโภคเนื้อสัตว์ (flexitarians) สูงถึง 40% ของประชากรทั้งหมด

ในสหรัฐอเมริกา แม้สัดส่วนประชากรมังสวิรัติจะอยู่ที่ประมาณ 5% แต่ตลาดอาหารมังสวิรัติและวีแกนมีมูลค่าสูงถึง 7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สรุปบทความ คนจีนกินเจไหม แล้วกินเจเป็นความเชื่อมาจากไหน

บทความนี้ News Daily TH นำเสนอข้อมูลครอบคลุมเกี่ยวกับการกินเจในวัฒนธรรมจีนและทั่วโลก โดยอธิบายถึงรากฐานความเชื่อที่มาจากการผสมผสานระหว่างพุทธศาสนานิกายมหายาน ลัทธิเต๋า และความเชื่อพื้นบ้านของจีน

การกินเจในวัฒนธรรมจีนเริ่มมีอิทธิพลชัดเจนหลังพุทธศาสนาเข้ามาในจีนสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (25-220 ค.ศ.) และได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากจักรพรรดิอู่ตี้แห่งราชวงศ์เหลียงในปี ค.ศ. 511 ส่วนเทศกาลกินเจ เริ่มต้นในสมัยราชวงศ์หมิง (1368-1644) และเกี่ยวข้องกับการบูชาเทพเจ้าทั้งเก้าในลัทธิเต๋า

ในปัจจุบัน การกินเจในจีนแผ่นดินใหญ่ไม่แพร่หลายเท่าในชุมชนจีนโพ้นทะเล อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มฟื้นฟูความสนใจในวัฒนธรรมดั้งเดิมรวมถึงการกินเจ โดยข้อมูลล่าสุดระบุว่ามีชาวจีนประมาณ 50 ล้านคน หรือ 3.5% ที่เป็นมังสวิรัติหรือกินเจเป็นประจำ

นอกจากจีน การกินมังสวิรัติในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะอินเดียที่มีประชากรมังสวิรัติมากที่สุดในโลก (30-40% ของประชากร) ไต้หวันที่มีสัดส่วนประชากรมังสวิรัติสูงที่สุดในเอเชียตะวันออก (13-14%) และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่

ประโยชน์ของการกินเจต่อสุขภาพ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากงานวิจัยทางการแพทย์ ได้แก่ การลดความเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง การช่วยควบคุมน้ำหนัก การลดการอักเสบในร่างกาย และผลดีต่อจุลินทรีย์ในลำไส้ พร้อมทั้งให้ข้อควรพิจารณาในการกินเจให้ได้ประโยชน์สูงสุด เช่น การได้รับโปรตีนและวิตามินที่เพียงพอ

ทั้งหมดนี้ทำให้เห็นว่าการกินเจไม่เพียงเป็นความเชื่อทางศาสนาและวัฒนธรรม แต่ยังเป็นแนวทางการบริโภคที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลกด้วยเหตุผลที่หลากหลายทั้งด้านศาสนา สุขภาพ จริยธรรม และสิ่งแวดล้อม


บทความที่เกี่ยวข้อง by News Daily TH
แผ่นแปะลดไข้ ที่ไม่ได้ช่วยลดไข้!

สมภารไม่กินไก่วัด เหตุผลที่หัวหน้าไม่ควรมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกน้อง

 

หากอ่านแล้วบทความมีประโยชน์ กดโหวต ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ ให้ด้วยนะคะ

เนื้อหาโดย: News Daily TH
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
15 VOTES (5/5 จาก 3 คน)
VOTED: momon, หัวหน้าแก๊งแมวน้ำ, News Daily TH x โหนกระแสไฟฟ้า
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ที่เที่ยวสุดอันซีน เมืองกาญจนบุรี""โรงแรมเมืองทอง" อดีตที่พักเก่าแก่แห่งโคราช สู่อาคารอนุรักษ์เคียงข้างลานย่าโมขับรถจี้คันหน้าบนมอเตอร์เวย์ โดนปรับเงินกว่า 3.3 ล้านบาทต้นจามจุรียักษ์ กาญจนบุรี – มหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ อายุกว่า 100 ปีมาแล้ว! เลขเด็ดปฏิทินจีน งวดวันที่ 1 เมษายน 68..รีบส่องให้ไว เสิร์ฟให้ตั้ง 5 ฉบับ!!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ทั่วไป
ความหวังใหม่ ผู้ป่วยโรคหัวใจ ชายออสเตรเลียคนแรกของโลกที่ใช้หัวใจเทียมทั้งหมดรีวิว ZD Toy War Machine Mark I ที่แฟนเกราะเหล็กต้องมีแฟนๆ Dragon Ball อาจบ่น แต่ยอมรับเถอะว่า โกฮังไม่เคยอยากเป็นนักสู้เหมือนโกคูIron Man Mark I งาน ZDToy งานสวยราคาถูกที่แฟน Iron Man ต้องมี
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง