แนะนำหนังดี เหมาะกับผู้เรียกร้องประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และ ความเท่าเทียมอย่างสันติวิธี แบบจอห์น ลูอิส เรื่องจริงที่สหรัฐอเมริกา
ภาพยนตร์ที่แนะนำในโพสท์นี้จะเข้าฉายในประเทศไทยวันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม 2564 โดยสหมงคลฟิล์มได้ชวนให้คนโพสท์ไปดูก่อนเพื่อที่จะได้มาแนะนำให้ผู้สนใจหาชมได้ทันเวลา หนังจัดอยู่ในรูปแบบสารคดีชีวประวัติการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และความเท่าเทียมของจอห์น ลูอิส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐแอละบามา เรทพีจี ความยาว 1 ชั่วโมง 36 นาที จากสหรัฐอเมริกาปี 2020 ได้คะแนนสูงใน IMDb ประชาชน 7.7/10 นักวิจารณ์ 70/100 ในเว็บมะเขือนักวิจารณ์ชอบ 94% คนดู 68%
จอห์น ลูอิส เกิดปี 1940 ที่เมืองทรอย แอละบามา เสียชีวิตหลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้เผยแพร่แล้วที่อเมริกาไป 15 วัน เขาเป็นนักพูด นักประชาธิปไตย นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียมระหว่างคนผิวดำและคนผิวขาวมาตั้งแต่ครั้งยังเป็นนักเรียนโดยได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวใหญ่ที่ทำฟาร์มเลี้ยงไก่เป็นอาชีพ เขามีมาร์ติน ลูเธอร์ คิงเป็นไอด้อล และได้เข้ารับการอบรมการเคลื่อนไหวโดยสันติวิธีไม่มีการใช้ความรุนแรงเลยตลอดชีวิตการนำผู้คนเดินขบวนและประท้วงนับพันครั้ง แม้ว่าเขาจะถูกออกหมายจับถึง 45 ครั้ง แต่เขาก็อดทนต่อสู้อย่างยึดมั่นในอุดมการณ์มาตลอด และในที่สุดความพยายามของเขาก็ประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรมทีละอย่าง จากน้อยไปหามาก ในที่สุดความสำเร็จสูงสุดคือการลงสมัคร สส พร้อมกับการหาเสียงให้คนผิวดำ ชาวยิว ชาวมุสลิม ชนกลุ่มน้อย เข้าสู่สภาสหรัฐอเมริการวมกันได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ในนามพรรคเดโมแครต จนในที่สุดอเมริกาก็มีผู้นำผิวสี บารัค โอบามา เป็นคนแรก
ก่อนเสียชีวิตในยุคโดนัล ทรัมป์ ประชาชนถูกปิดกั้นสิทธิเสรีภาพมากที่สุดในรอบหลายสิบปีด้วยวิธีการเล่ห์กลอย่างถูกกฏหมายหลายประการ เขาก็ยังนำการต่อสู้ให้กลางสมัยของทรัมป์ไม่ได้ครองเสียงข้างมากอีกต่อไปและนำไปสู่การได้เป็นประธานาธิบดีเพียงสมัยเดียว 17 กรกฎาคม 2020 จอห์น ลูอิส ถึงแก่กรรมด้วยวัย 80 หลังจากสารคดีเรื่องนี้เผยแพร่สู่สาธารณชนไปตั้งแต่วันที่ 2 เดือนเดียวกัน
ความน่าดูของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่แนวคิดเพียงอย่างเดียว ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่นักเคลื่อนไหวมีกันทั่วโลก และวิธีการที่ทำให้จอห์น ลูอิสประสบความสำเร็จนั่นคือ สันติวิธี ความอดทนอดกลั้น ไม่มีอาวุธ ไม่มีการโต้ตอบต่่อผู้มีอำนาจหรือสังคมที่เอาเปรียบด้วยความรุนแรงเลย มีแต่การแสดงสิทธิที่ควรจะได้รับเท่าเทียมกับผู้อื่นตามหลักประชาธิปไตยเท่านั้น หลังจากได้ชมเรื่องนี้แล้วรู้สึกทึ่งและเคารพมหาบุรุษผู้นี้มาก จึงอยากให้ทุกคนได้ชมกันครับ หนังดีจริงๆ ถ้านักประชาธิปไตยบ้านเราอดทนได้เหมือนอย่างเขา ความสำเร็จก็อาจจะมีได้มากกว่านี้