คนไทยเป็นโสดมากขึ้น
1. จากสถิติ พบว่า 40% ของคนวัยทำงานนั้นเป็นโสด หรือมีคนโสดประมาณ 17 ล้านคน ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร 60% ของคนในวัยทำงานเป็นคนโสด
ข้อมูลนี้ น่าจะมีส่วนตรงอยู่ เพราะคนรอบข้างที่ผมเจออยู่ทุกวัน มีคนที่ไม่แต่งงานมากพอกับคนที่แต่งงานแล้ว ดูสัดส่วนคนวัยทำงาน มีสัดส่วนคนโสดมากพอๆกับคนมีคู่เลย ราวๆ ครึ่งต่อครึ่งกันเลยทีเดียว
ส่วนกรุงเทพมีคนโสดมาก น่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะผมเองก็อยู่กรุงเทพ คนกรุงเทพมักจะเน้นการทำงานมาก่อน เพราะต้องใช้ชีวิตที่แข่งขัน การมีครอบครัว การมีคู่ จึงเป็นเรื่องรอง ที่ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อชีวิตมากนัก เรียกได้ว่า มีก็ได้ แต่มีต้องมีกว่าเดิม แย่กว่าเดิมไม่มีดีกว่า ส่วนไม่มีคู่ ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เพราะชีวิตเราก็ดีอยู่แล้ว จะไปหาภาระเพิ่มทำไม
หลายคนไม่ต้องการมีคู่ เพราะไม่ได้มองความสมบูรณ์ของชีวิตจะต้องแต่งงาน อาจมีคู่ชีวิตคู่คิดในรูปแบบไหนก็ได้ ไม่ต้องอยู่กับผู้ชายก็ได้ และไม่ใช่แบบเพศทางเลือก หรือ LGBT แค่มีเพื่อนคอยดูแลกันและกัน
2. ผู้หญิงไทยไม่ค่อยแต่งงาน ส่วนใหญ่เป็นคนเจนวาย เกิดระหว่างปี 2525 ถึง 2540 ปัจจุบันมีอายุ 24 ถึง 40 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงาน และควรเป็นวัยแต่งงาน โดยคนที่ยิ่งเรียนสูง ยิ่งแต่งงานน้อย
อันนี้ มีส่วนจริงอยู่มาก เพราะคนในเจนวาย ส่วนใหญ่ยังรักความเปฺ็นอิสระในชีวิตอยู่มาก ผมได้เห็นยูทูปเบอร์มากมาย แม้กระทั่งคนที่รู้จักหลายคนในวัยนี้ ก็ล่วนให้ความเห็นคล้ายๆ กันว่า การมีคู่ไม่ใช่เรื่องสำคัญกับชีวิตเลย เรื่องเงินสำคัญกว่าเยอะ ยิ้งเรียนสูง สามารถหาเินได้เอง ความสำคัญของการมีคู่ยิ่งลดน้อยลงไป อันนี้ก็จริงมาก
3. โอกาสที่ผู้ชายจะหาแฟนได้มีมากกว่าผู้หญิง เมื่ออายุ 35 ขึ้นไป โดยเฉลี่ยผู้ชายโสด 70 คน กับ ผู้หญิง 100 คน เนื่องจากผู้หญิงมีอายุโดยเฉลี่ยแล้วสูงกว่าผู้ชาย
อันนี้ ผมว่ามีส่วนจริง เพราะจำนวนผู้ชายไทยมีน้อยกว่าหญิง และมีอายุเฉลี่ยของหญิงมีมากกว่าชาย
4. โอกาสที่จะเจอแฟนในสถานที่เที่ยวนั้นมีเพียง 4% ดังนั้นสำหรับคนที่คิดว่าจะได้แฟนจากการเที่ยวอาจต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่ เพราะโอกาสที่จะได้พบรักที่ร้านกาแฟมีมากกว่าเสียอีก
ข้อมูลเป็นแบบนี้ แต่ด้วยผมเป็นคนไม่เที่ยวกลางคืน จึงไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ แต่มักมีคนบอกว่า คนที่เจอกันตามที่เที่ยว มักคบกันไม่ยืดยาวเท่าไหร่
5. เปอร์เซ็นต์ของคนที่เคยทดลอง Online Dating ไม่ว่าจะเป็นเว็บหรือผ่านแอพ มีสูงถึง 60% แต่เสี่ยงกับความปลอดภัย เพราะไม่มีตัวกลางตรวจสอบและยืนยันตัวตน กระทั่งสถานะความโสด
อันนี้ มีความเป็นไปได้สูง เพราะสถานะตัวตนที่แท้จริง คนเรามักจะไม่ยอมบอกคนอื่นหรอกว่า ตัวเองมีคู่แล้ว บางคนก็ไม่ได้ต้องการหาคู่จริงจัง บางคนแค่เหงาอยากมีเพื่อน บางคนอยากมีเซกส์ และหลายคนไม่ได้ต้องการคู่ครองที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกันยาวๆ เพราะ ความไม่แน่นอนในชีวิต ปัญหาที่เกิดขึ้นในการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ความคิดทัศนคติไม่ตรงกัน มีปัญหาการเงินในครอบครัว เป็นต้น
6. เวลาออกเดท การประทับใจแรกพบนั้นสำคัญมาก ผู้ชายใช้เวลาเพียง 3 วินาที ในการตัดสินใจที่จะเดินหน้าต่อ ส่วนผู้หญิงใช้เวลาถึง 15 นาทีคิดว่าควรจะเจอคู่เดทอีกครั้งหรือไม่
อันนี้ น่าจะมีส่วนจริง เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีการคิดมากกว่าผู้ชายหลังจากการนัดออกเดทครั้งแรก
7. ปัญหาคู่ที่พบมากที่สุด คือเรื่องเงินทอง เป็นปัญหาที่ทำให้เลิกราได้มากที่สุด ตามมาด้วยเรื่องชู้สาว หากมีประเด็นเรื่องการจ่ายเงินเวลาทานข้าวยามออกเดท เมื่อการแต่งงานมาถึง ปัญหานี้จะมีโอกาสกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้มากขึ้นเนื่องจากความคิดเห็นไม่ตรงกัน
อันนี้ แน่นอน คอนเฟิร์ม 100%