ฝนตกห่าใหญ่ 1 ห่านี่มันปริมาณเท่าไหร่
เวลาฝนตกหนักๆ คนสมัยก่อนมักจะเรียกว่าฝนตกห่าใหญ่ เเล้วสงสัยกันมั้ยคะว่า คำว่าห่าใหญ่ นี่มันปริมาณเท่าไร เเล้วคนสมัยก่อนเค้าปริมาณน้ำฝนวัดยังไง ถึงรู้ว่าห่าใหญ่ห่าเล็ก วันนี้มีคำตอบค่ะ
ตามที่หลายคนเข้าใจนั่นเเหละค่ะว่า ฝนตกห่าใหญ่ ก็คือฝนตกหนัก หรือปริมาณฝนที่ตกจำนวนมากนั่นเอง ตามต่างจังหวัด จะวัดเป็นห่า ห่าเล็กก็คือตกไม่หนัก (ซึ่งไม่ค่อยใช้กันเเล้ว) เเละห่าใหญ่ก็คือฝนตกหนักมาก
เมื่อก่อนชาวบ้านจะวัดปริมาณน้ำฝนเป็นห่า โดยมีบาตรพระตั้งกลางเเจ้ง เพื่อใช้เป็นตัววัดปริมาณน้ำฝน เหมือนสมัยนี้วัดโดยมาตรวัดน้ำฝนหรือ rain gauge นั่นเเหละค่ะ
โดยภูมิปัญญาชาวบ้าน วัดปริมาณน้ำฝนครึ่งห่า หรือปริมาณน้ำฝนครึ่งบาตรเท่ากับ 100 มม. ฝนระดับนี้ให้ระวังน้ำท่วม เเละฝนตก 1 ห่า หรือฝนเต็มบาตร ปริมาตร 200 มม. นี่คือตกหนักมาก ให้ระวังน้ำท่วมใหญ่ เเละดินถล่ม
ด้วยความที่สมัยก่อน ชาวบ้านตามต่างจังหวัดอาจจะไม่ได้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศ จึงต้องมีการดูสิ่งเเวดล้อมรอบตัวประกอบ เช่นสังเกตสัตว์จำพวกมดว่ามีการขนไข่หนีน้ำมั้ย เเมลงปอบินต่ำมั้ย เพื่อคาดคะเนอากาศล่วงหน้า เรียกได้ว่าทุกคนสามารถเป็นเทพธิดาพยากรณ์ได้หมด😂😂😂
เมื่อฝนตกก็มีการเตรียมอุปกรณ์กักเก็บน้ำไว้ดื่มไว้ใช้สอยกัน เเต่ปัจจุบันเราเเทบจะไม่ได้ใช้น้ำสำหรับดื่มเเล้ว เพราะมลพิษทางอากาศเยอะมาก ตามต่างจังหวัดบางครั้งน้ำฝนก็ไม่สามารถเอาดื่มได้ นอกจากต้องรอให้ฝนตกสองถึงสามห่าก่อนเพื่อชะล้างมลพิษในอากาศลงมาก่อน ถึงจะเก็บน้ำมาดื่มได้ หรือไม่ก็ต้องเอาน้ำมาต้มก่อน
เมื่อก่อนฝนตกห่าใหญ่ถึงจะเสี่ยงน้ำท่วม เเต่ตอนนี้ถ้าตามในเมืองใหญ่ๆ บอกได้เลยว่า ไม่ว่าฝนตกห่าเล็กหรือห่าใหญ่ก็มีโอกาศน้ำท่วมได้หมด เเต่เราไม่สามารถเรียกน้ำท่วมได้ ให้เราเรียกว่าน้ำขังรอการระบาย หรือน้ำระบายไม่ทัน 555555