น้ำปูนใส.. ที่น่าทึ่ง
หลายคนคงรู้จักปูนแดงที่คนแก่จะเอามาทาใบพลูใส่หมากสดหรือหมากแห้ง ไว้เคี้ยวกิน ปูนสีแดงนี้เราสามารถนำมาทำเป็นน้ำปูนใสได้ น้ำปูนใสเราเอาใส่ผสมแป้งทอดกรอบทอด จะทำให้ของที่ทอดมีความกรอบได้นานกว่าเดิมหรือนำมาใช้ผสมในขนมได้ด้วย นอกจากปูนแดง ยังมีปูนขาวด้วยค่ะ มาดูว่าปูน 2 ชนิดนี้ต่างกันตรงไหน ประโยชน์ของน้ำปูนใส การทำน้ำปูนใส
เป็นยังงัย เรามาดูกันค่ะ
ปูนขาว เกิดจากการเผาหินปูนหรือเปลือกหอย จนได้เป็นของแข็งหรือเป็นผง สีขาวขุ่น เราเรียกว่า ปูนขาว
ปูนแดง เป็นที่นิยมใช้กันมากค่ะ เกิดจากการนำปูนขาวมาละลายในน้ำผสมกับขมิ้น คนให้เข้ากันจะเกิดเปลี่ยนสีจากสีขาวเป็นสีแดงหรือสีชมพูเข้ม นิยมนำมากินกับหมากในผู้สูงวัย
การทำน้ำปูนใส
การนำปูนแดงมาผสมกับน้ำเปล่า ใส่ภาชนะที่มีฝาปิด ตั้งทิ้งไว้ให้ตกตะกอน ตะกอนชั้นแรกจะเป็นปูนแดง และชั้นที่2 จะเป็นน้ำใส ใส เรียกน้ำใสนี้ว่า น้ำปูนใส จะมีฝ้าลักษณะเป็นแผ่นบาง บาง อยู่ด้านบนให้ตักฝ้าทิ้ง รินน้ำปูนใสมาใช้ได้ค่ะ ถ้าน้ำปูนใสเกือบหมดให้เติมน้ำเปล่าเพิ่มได้ และทิ้งไว้สัก1ถึง2คืน สามารถนำน้ำปูนใสมาใช้ได้เหมือนเดิม
ประโยชน์น้ำปูนใส
1.ช่วยปรับเนื้อสัมผัสของอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ขนม และของหวานให้เกิดความแข็งตัว ความกรอบ เพิ่มขึ้น
2.ช่วยรักษาสภาพและเนื้อสัมผัสให้คงรูป ป้องกันการเปื่อยหยุ่นของอาหารได้
3.เป็นการเพิ่มแคลเซียมให้กับอาหาร
4.เป็นสารกันบูดต้านเชื้อจุลินทรีย์
5.ช่วยลดกลิ่นเหม็นหืน กลิ่นบูดของอาหารได้
6.ช่วยยืดอายุของผัก ผลไม้ โดยใช้นำปูนใสฉีดพรม
7.ช่วยชะล้างยาฆ่าแมลงได้ และสารโลหะหนัก โดยการแช่ผักผลไม้ในน้ำปูนใส
ข้อควรระวังในการใช้น้ำปูนใส
1.ถ้าเราใส่น้ำปูนใสในแป้งหรือขนมของหวานมากเกินไปจะทำให้ตัวแป้งและขนมมีความแข็ง ไม่เหนียวหนืด ส่วนในขนม อาจจะมีรสปร่าเกิดจากความเป็นด่างได้
2.การใช้น้ำปูนใสที่เข้มข้นใส่ในผักและผลไม้ จะทำให้เกิดความกระด้างของผิว และถ้าผลไม้มีเปลือกจะทำให้เปลือกผลไม้แข็งมากขึ้น ขาดรสชาดที่อร่อยด้วยค่ะ
น้ำปูนใส ทำไม่ยากและมีประโยชน์มาก แต่เราควรใช้ให้ถูก และใช้ในปริมาณที่ไม่มากจนเกินไป เราจะได้กินอาหารทอดได้กรอบ อร่อย และใครจะคิดว่าปูนแดงจะทำได้ถึงเพียงนี้