อาหารจากป่า:มื้อแซ่บจากธรรมชาติ
มื้อเย็นของค่ำคืนนี้ ใครได้อาหารอะไรมาทานกันบ้างเอ่ย นำมาแชร์กันหน่อยคงเป็นสีสันได้ไม่น้อยเลย ส่วนผู้เขียนเองก็ตามสเต็ป เดินชมพืชสวนตามไร่นาสวนครัวที่ปลูกไว้ เห็นยอดผักหวานป่ากำลังแตกยอดอ่อนมากมาย เพราะได้น้ำฝนมาหลายวันจากพายุเข้า เดินต่อไปอีกหน่อยตรงขอนไม้ก็เจอกับเห็ดขอนขาว ซึ่งเป็นเห็ดที่นำมาปรุงอาหารรับประทานได้ ไม่ใช่เห็ดเมานะคะ ใครไม่มีความชำนาญสังเกตเห็ด ห้ามเด็ดเอามาปรุงอาหารเด็ดขาด เพราะนั่นคือคุณอาจเก็บเห็ดที่เป็นเห็ดเมา มีพิษนำไปสู่การเสียชีวิตได้นะ
เมนูในหัวจึงพุ่งพล่านปิ๊งไอเดีย จะทำแกงเห็ดผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง ก็จัดการเดินไปตัดตะไคร้ที่กอ และเด็ดยอดใบแมงลักมาเพิ่มกลิ่นหอม และเดินไปใต้ต้นมะม่วงใหญ่3-4 ต้น มองหารังมดแดงที่เป็นไข่เป้ง สังเกตรังใหญ่ใบไม้ออกสีเขียวอมน้ำตาล นั่นแหละไข่เป้งอยู่ในรัง จัดการสอยมาสักรังก็เพียงพอ รังที่เหลือให้มดแดงอาศัยอยู่ต่อขยายพันธุ์ใหม่ เดินต่อก็มาหยุดตรงกอไผ่ เห็นหน่อดินน้อยใหญ่กำลังแตก ใช้เสียมแซะขุดมาเพื่อลวกจิ้ม เดินสุดเขตแดนตรงคูสวน พ่อดักไซทำจากไม้ไผ่ห่อด้วยอวน เพื่อใช้เป็นเครื่องมือดักปลามาทำอาหาร ลองยกสำรวจได้ปลาช่อน4-5 ตัว สงสัยคงว่ายเล่นน้ำกันจนโดนจับ ได้วัตถุดิบพร้อมแล้วก็หิ้วหอบเดินกลับบ้าน นำมาล้างทำความสะอาดแล้วจัดเตรียมปรุงเมนู
จัดเตรียมวัตถุดิบพร้อมย่างและเผาเกลือปลาช่อนอันดับแรก
ระหว่างรอปลาช่อนเผาสุกครบทุกตัว
ก็หันมาปรุงแกงเห็ดขอนผักหวานป่าใส่ไข่มดแดงกัน วัตถุดิบนั้นมีผักหวานป่า เห็ดขอนขาว ตะไคร้ หอมแดง ใบแมงลัก ข่า น้ำปลาร้า/น้ำปลา ไข่มดแดง พริกขี้หนูสด/แห้ง
นำตะไคร้ซอย ข่าซอย พริกแห้ง/พริกสด ความเผ็ดตามชอบ หอยแดงซอย มาโขลกเกือบละเอียด และฉีกเนื้อปลาย่างโขลกแค่พอหยาบ นำทุกอย่างลงหม้อที่ต้มน้ำรอจนเดือดพล่าน ใส่เห็ดขอนลงสมทบ รอจนเห็ดเริ่มสุกน้ำเดือดอีกครั้ง ใส่ผักหวานป่า ไข่มดแดงตามลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า/น้ำปลา รอจนเดือด ชิมรสตามชอบ ขั้นสุดท้ายคือเด็ดยอดใบแมงลักใส่ลงไป
คนอย่างเบามือและยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย กลิ่นหอมโชยชวนให้หิว สมุนไพรต่างๆส่งกลิ่นให้สูดดมรู้สึกโล่งสบาย ผ่อนคลายเบาๆดี มีกลิ่นปลาย่างอ่อนๆลอยปะปน
สุดท้ายก่อนจะเสร็จของมืีอนี้ คือนำหน่อดินของไผ่มาต้มสุก พร้อมลวกผักต่างๆที่มีอยู่กินคู่กับแจ่วบองที่ทำไว้
และแล้วทุกอย่างก็เสร็จสรรพ จัดการยกสำรับพร้อม อาหารจากป่าที่ได้มาจากธรรมชาติล้วน ยกเสิร์ฟให้สมาขิกในครอบครัวได้อิ่มหนำ ปูเสื่อล้อมวงกินข้าวท่ามกลางธรรมชาติตรงลานบ้าน ยามค่พคืนท่ามกลางหมู่ดาวมีหลากหลาย เสียงจักจั่นเรไรร้องเซ็งแซ่ผสานเสียง ผสมเสียงเพลงที่เปิดขับกล่อมเบาๆ นี่แหละหนาความสุขที่เงินไม่สามารถแลกได้มา มากินข้าวด้วยกันนะ...