สรรพคุณของพริกที่น่ารู้ มีประโยชน์มากกว่าที่คิด และใครที่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานพริก ?
พริก เป็นพืชผักสมุนไพร ต้นมีทรงพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นกลม ๆ สีเขียว ใบสีเขียว ผลดิบมีสีเขียวอ่อน ผลสุกมีสีแดง สีส้ม สีเหลือง ตามสายพันธุ์ มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนในทวีปอเมริกา ปัจจุบันมีการปลูกกันในหลายประเทศทั่วโลก คนไทยนิยมรับประทานกันมาตั้งแต่โบราณ มีการปลูกพริกหลายสายพันธุ์ โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ (1) กลุ่มที่มีรสชาติเผ็ดมาก เช่น พริกขี้หนู พริกขี้หนูสวน (2) กลุ่มที่มีรสชาติไม่เผ็ดมาก เช่น พริกหยวก พริกหวาน การปลูก ใช้เมล็ดพันธุ์ นำมาเพาะในถุงเพาะชำ หรือเพาะลงในแปลงเพาะ เป็นพืชที่เจริญได้ในดินแทบทุกชนิด ส่วนดินร่วนปนทราย จะเจริญได้ดี
ประโยชน์และสรรพคุณของพริก
เนื่องจาก พริก มีวิตามินซี วิตามินเค วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 วิตามินบี9 มีโพแทสเซียม มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส มีธาตุเหล็ก มีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน มีเส้นใย จึงทำให้พริกมีประโยชน์และสรรพคุณมากมาย สรุปได้ดังนี้
1.ช่วยลดความดันโลหิต
2.ช่วยในการสลายลิ่มเลือด
3.ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจล้มเหลว
4.ช่วยให้หายใจได้สะดวกยิ่งขึ้น
5.ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง ความเผ็ดของพริกมีส่วนช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งได้
6.ช่วยลดปริมาณสารคอเลสเตอรอลในร่างกาย ทำให้ปริมาณของไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือดลดลง
7.มีสาร Capsaicin ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร
8.ช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย ขับแก๊สในกระเพาะ
9.มีส่วนช่วยในการขับปัสสาวะ
10.ช่วยป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ ในบริเวณจมูก ลำคอ ปอด เยื่อบุผนังช่องปาก
11.ช่วยบรรเทาอาการไอ
12.ใช้ในการประกอบอาหาร ปรุงแต่งอาหาร นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ เช่น พริกป่น พริกแห้ง พริกดอง ซอสพริก น้ำพริก เครื่องแกง
13.ใช้ในผลิตภัณฑ์ยารักษาโรค ในด้านการแพทย์ได้มีการสกัดเอาสารแคปไซซินในพริกออกมาในรูปแบบครีมหรือเจล ใช้ทาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดที่ผิวหนัง ที่ถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก งูสวัด เป็นต้น
สรรพคุณและประโยชน์ของพริก ยังมีอีกมาก ผู้สนใจสามารถค้นหาได้ในแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับพริกได้ครับ ส่วน ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร ควรหลีกเลี่ยงในการรับประทานพริก เพราะอาจจะทำให้กรดไปกัดแผลในกระเพาะอาหารได้ สำหรับเด็กและผู้สูงอายุ ที่มักจะสำลักง่าย ก็ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานพริก
เช่นกัน