10 สรรพคุณเด่น ๆ ของฟักทอง รับประทานฟักทองอย่างไรให้ได้ประโยชน์มากที่สุด ?
ฟักทอง มีถิ่นกำเนิดในแถบร้อนของอเมริกากลาง รวมไปถึงตอนเหนือของเม็กซิโก และทางตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกาเหนือ ซึ่งว่ากันว่า มีการค้นพบหลักฐานว่า มีการปลูกกันมานานกว่า 8,000 ปีมาแล้ว ภายหลังได้มีการแพร่กระจายพันธุ์ไปยังยุโรป และมาทางเอเชีย จนมาถึงไทยตามลำดับ ฟักทองถือเป็นพืชที่เป็นทั้งผักและผลไม้ ผลฟักทองสามารถนำมาประกอบอาหารได้สารพัดเมนูทั้งคาว และหวาน ใบอ่อนและยอด
ใช้ประกอบอาหาร หรือลวกจิ้มกับน้ำพริกก็อร่อย
10.สรรพคุณเด่น ๆ ของฟักทอง
ฟักทอง ซึ่งเป็นพืชผักผลไม้ มีสรรพคุณทั้ง เนื้อ, เปลือก, ใบและยอดอ่อน, ดอก, เมล็ด, ราก และเยื่อกลางผล สรุปเฉพาะสรรพคุณเด่น ๆ คือ
1.ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจได้ ในเนื้อฟักทองมีวิตามินเอสูง รวมทั้งฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง และในเนื้อสีเหลืองของฟักทองมี เบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจได้
2.ช่วยลดอาการเกิดมะเร็งได้ เพราะมีสารเบต้าแคโรทีนในเนื้อสีเหลืองของฟักทอง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
3.ช่วยบำรุง และรักษาสายตา เพราะฟักทองเป็นหนึ่งในผักที่มีสีเหลืองออกส้ม มีวิตามินเอ ที่ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
4.ป้องกันโรคเบาหวาน หากทานฟักทองทั้งเปลือก จะสามารถกระตุ้นการหลั่งสาร อินซูลิน ในร่างกาย ซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดเบาหวานได้
5.ช่วยลดน้ำหนัก ในฟักทอง มีไขมันน้อย น้ำตาลน้อย กากใยอาหารสูง พลังงานต่ำ จึงเป็นอาหารที่เหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำหนัก
6.บำรุงผิวพรรณให้เต่งตึง ชุ่มชื่น ชะลอรอยเหี่ยวย่น ในฟักทองมี คอลลาเจน ตามธรรมชาติ ที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังของเรา อีกทั้งยังมีวิตามินซี ที่ช่วยให้เรามีผิวพรรณสดใส ป้องกันการเกิดริ้วรอย
7.ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานอย่างเป็นปกติ เนื่องจากฟักทองมีกากใยอาหารสูง
8.ป้องกันการเกิดโรคนิ่ว เมล็ดฟักทองมีสารที่ชื่อว่า คิวเคอร์บิติน ช่วยขับปัสสาวะ ป้องกันการเกิดนิ้ว
9.ช่วยป้องกันต่อมลูกหมากโต น้ำมันจากเมล็ดฟักทองมี กรดอะมิโน บางชนิดช่วยป้องกันไม่ให้ต่อมลูกหมากของผู้ชายขยายใหญ่ขึ้น
10.เป็นยาขับพยาธิตัวตืด ใช้เมล็ดฟักทอง 200 เม็ด (ไม่ควรเกิน 150 กรัม) ตากแห้งหรือคั่วให้สุก รับประทาน
รับประทานฟักทองอย่างไรให้ได้ประโยชน์มากที่สุด
ท่านที่อยากรับประทานฟักทองเพื่อลดความอ้วน ลดระดับน้ำตาลในเลือด อย่าเผลอรับประทาน ฟักทองแกงบวด ฟักทองสังขยา นะครับ เพราะเมนูทั้ง 2 นี้มีน้ำตาลสูง อยากแนะนำให้ ต้ม หรือ นึ่ง รับประทาน หรือ ปั่น รับประทานกับผักผลไม้อื่น ๆ ทำ ซุปฟักทอง ฟักทองผัดไข่ รับประทานเป็นอาหารคาวจะดีกว่าครับ