ดอกกล๊อกซิเนีย (กุหลาบนางฟ้า)
ในบรรดาดอกไม้ที่เคยปลูกแล้วตายลาโลกไปแล้วอยากมีไว้ชื่นชมอีกเรื่อยๆ หนึ่งในนั้นก็คือดอกกล๊อกซิเนียหรือกุหลาบนางฟ้า ดอกไม้แสนสวย กลีบใบคล้ายกำมะหยี่ ออกดอกเป็นช่อคล้ายกุหลาบพวง
ดอกกล๊อกซิเนียแสนสวยหลากหลายสายพันธุ์ที่เราได้ชมทุกวันนี้ มีประวัติน่าสนใจเหมือนกันค่ะ ลองหาอ่านๆ ตามประสาคนชอบดอกไม้พบว่า ดอกไม้สวยๆ นี้ มีการค้นพบในป่าของประเทศบลาซิลปี ในปี ค.ศ. 1785 ต่อมาได้รับการตั้งชื่อว่า Gloxinia โดยนักจัดสวนชาวอังกฤษ ชื่อ Conrad Loddiges ในปี 1817 และได้รับการรับรองชื่อโดย Benjamin Peter Gloxin นักพฤกษาศาสตร์ชาวเยอรมัน ในปี ค.ศ. 1825 มีการพัฒนาสายพันธุ์ดอกกล๊อกซิเนียจนเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และเป็นสัญลักษณ์แทนรักแรกพบ ด้วยความสวยงามให้ความรู้สึกโรแมนติก คนจึงนิยมมอบให้คนรักในวันนัดเดต วันวาเลนไทน์ วันครบรอบต่างๆ และปลูกประดับสำหรับตั้งโชว์ (ข้อมูลจาก website The Urban Garden https://en.calameo.com/books/0029291826eb985946fbb)
กล๊อกซิเนียเลยมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้สื่อสารในหมู่นักพฤกษาศาสตร์ว่า Sinningia speciosa (Lodd) และชื่อสามัญที่เรียกกันทั่วไปคือ Florist's Gloxinia
ผู้เขียนได้รู้จักกับดอกกล๊อกซิเนียครั้งแรกเมื่อประมาณสิบปีก่อนในงานจัดจำหน่ายสินค้าโครงการในพระราชดำริ ที่ห้างเดอะมอล โคราช ด้วยความสวยที่สะดุดตา เลยตัดสินใจซื้อมาสองต้น ดอกเป็นดอกชั้นเดียวสีม่วงเข้มขอบขาวและสีม่วงอ่อนขอบขาวอย่างละกระถาง
ดอกกล๊อกซิเนียเป็นดอกไม้บานทน สีม่วงๆ ช่วยให้รู้สึกจิตใจสงบร่มเย็น เวลารู้สึกไม่สบายใจ ได้มองดอกของกล๊อกซิเนียช่วยให้จิตใจคลายกังวลได้ดีทีเดีียว หลังดอกเหี่ยวก็ผู้เขียนจึงอยากจะมีดอกไว้ชื่นชมอีกหลายๆ ต้น ตั้งใจหาข้อมูลการดูแลในกูเกิลซึ่งมีคนใจดีลงข้อมูลเกี่ยวกับกล๊อกซิเนียไว้เยอะมาก ได้ทั้งความรู้เรื่องการขยายพันธุ์แบบต่าง ๆ การผสมดินปลูก รวมไปถึงการดูแล เมื่อทดลองชำใบแบบควบแน่นก็ได้ต้นใหม่สมใจ แต่ด้วยความที่ยังไม่เข้าใจถ่องแท้ เมื่อรดน้ำมากเกินความต้องการ ทำให้กล๊อกซิเนียทยอยเน่า เหลือไว้ให้ดูใจสองสามต้น แต่ยังโชคดีได้ชมดอกและได้โพสอวดหน้าเฟส ในกลุ่มดอกไม้บ้าง มีคนมาไลค์มากและมีสนใจมาขอแลก เลยตัดสินใจส่งต้นไปให้ก่อน และทางผู้ขอแลกได้ขอแลกเป็นเมล็ดกล๊อกซิเนียแทน ซึ่งใจไม่ค่อยอยากได้นัก เพราะเป็นคนที่ขี้เกียจเพาะเมล็ดมาก ด้วยเห็นเมล็ดกล๊อกซิเนียในอินเตอร์นั้นมีขนาดเล็กเหลือเกิน เลยไม่เคยมีความคิดจะเพาะเมล็ดชนิดนี้ในหัวแม้แต่น้อยนิด และสุดท้ายเมื่อรับมาก็เพาะไม่รอดสักเมล็ด มารู้ทีหลังว่าต้องรักษาความชื้นของดินเพาะให้ดี การเพาะเมล็ดแบบงง ๆ ก็ผ่านไป พร้อมหัวที่เพาะไว้ก็ลาโลกจากไปด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรแล้วดอกกล๊อกซิเนียยังทิ้งความสวยงามไว้ในความทรงจำ เสน่ห์การปลูกดอกไม้คงจะเป็นเช่นนี้ เหมือนตกหลุมรักอะไรสักอย่าง ก็เกิดความตั้งใจว่าสักวันจะต้องหามาปลูกอีกครั้ง
ต่อมาประมาณปี 2560 ต้องย้ายตามสามีไปต่างจังหวัด ทำหน้าที่เป็นแม่บ้านอย่างเดียวไปสักพักก็เริ่มเกิดอยากมีรายได้เสริมขึ้นมา ทุนรอนในการทำธุรกิจก็ไม่มี ครุ่นคิดกับตนเองอยู่นาน สุดท้ายเลยตัดสินใจจะขายต้นไม้ คิดง่ายๆ ว่าคงใช้ทุนไม่มาก เมื่อกลับมาดูบ้าน จึงถือโอกาสไปหาซื้อต้นไม้มาจากตลาดต้นไม้ที่โคกกรวดโคราช หวังว่าจะต้องมีสักอย่างที่เข้าตาและน่าจะขายได้ดีแน่ๆ เดินเข้าเดินออกหลายร้านจนเกือบถอดใจ เพราะไม่มีดอกไม้ที่เข้าตากรรมการเลย แต่สุดท้ายก็เจอดอกไม้ในฝัน กล๊อกซิเนียตั้งโชว์ สวยเด่นสะดุดตา แต่เมื่อเดินไปชมใกล้ๆ ดอกเริ่มเหี่ยวไปบ้าง เจ้าของร้านแจ้งว่า ขายไม่ค่อยดีเท่าไร คนซื้ออย่างเราก็เริ่มสองจิตสองใจ แต่ค่อนไปทางมั่นใจไร้สติว่าต้องขายดีแน่ๆ เลย หรือภาษาทางการค้าขายคือ การกล้าเสี่ยงลงทุน ถ้าจะขาดทุนก็ต้องรับเกมส์นี้ได้ ไม่มาตัดพ้อต่อโชคชะตา ก็ได้แต่หวังว่า มันจะขายได้ และเมื่อนำมาขายก็ขายดีตามที่คาดการณ์ไว้ หลังจัดส่งให้ลูกค้าเรียบร้อย หักลบแล้วมีกำไรบ้างแถมมีต้นที่ขี้เหร่เหลืออยู่สองสามต้น ไม่รอช้าตามประสาคนตกหลุมรักกล๊อกซิเนีย ก็ลงมือขยายพันธุ์ด้วยการชำใบแบบควบแน่นอีกครั้ง ปรากฎว่า ได้ต้นใหม่่มาหลายกระถาง ดูแลไปตามประสาจนได้ชมดอก ด้วยสถานการณ์ในชีวิตต้องมีการเดินทาง ทำให้ต้องทิ้งขว้าง พอขาดน้ำขาดการดูแลกุหลาบนางฟ้าก็ลาโลกไปสวรรค์ทุกกระถาง
(ต้นที่เหลือจากการขาย นำมาประดับที่บ้าน)
ปลายปีที่ผ่านมา โชคดีได้ย้ายกลับบ้านเลยสานต่อความฝันเล็กๆ ของตัวเองอีกครั้ง เลยลองหาซื้อเมล็ดกล๊อกซิเนียใน shoppee ตัดสินใจสั่งดอกซ้อน ลุ้นสีมาปลูก
ช่วงรอเมล็ดด้วยความตื่นเต้น ก็เตรียมวัสดุปลูกทำด้วยความประณีตมากขึ้น ออกไปหาซื้อพีทมอสกับขุยมะพร้าว จัดแจงล้างขุยมะพร้าวจนสะอาดเพื่อล้างสารเทนนินซึ่งเป็นสารที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของรากต้นไม้ เอาขึ้นจากน้ำแล้วตากแดดจนแห้งเพื่อฆ่าเชื้อโชค
เมื่อเมล็ดมาถึงแล้วช่วงเย็นหลังจัดการภารกิจในบ้านเรียบร้อยก็จัดการเพาะเมล็ด นำพีทมอสผสมกับขุยมะพร้าว สัดส่วน 1:1 ฉีดพรมน้ำให้ชุ่ม จัดการบีบน้ำวัสดุปลูก จนไม่มีน้ำหยดออกมา จากนั้นรองก้นตระกร้าสำหรับเพาะด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ ใส่วัสดุปลูกที่เตรียมไว้ให้หนา ¾ ของตระกร้า เกลี่ยวัสดุปลูกให้เรียบ โรยเมล็ดกล๊อกซิเนียลงไป ต้องใช้พู่กันช่วยเขี่ยออกจากหลอดเก็บเมล็ด เมล็ดของดอกซ้อนนั้นเล็กมากคล้ายผงฝุ่น เลยไม่แน่ใจว่าเมล็ดตกลงไปหรือไม่ เมื่อโรยเมล็ดลงไปเรียบร้อยแล้ว จัดการฉีดพ่นน้ำ เก็บตระกร้าไว้ที่มีแดดส่องรำไร ทุกวันตื่นนอนแล้วรีบมาเช็คดู หากหน้าวัสดุปลูกแห้งจะฉีดพรมน้ำ ช่วงเพาะเมล็ดเป็นเดือนพฤศจิกายน อากาศแห้งมาก จึงต้องฉีดพรมน้ำทุกวัน วันละสองครั้ง
7-14 วันต้นกล๊อกซิเนียก็แทงต้นออกมา
หลังแทงต้น 30-40 วัน แยกต้นมาปลูกในกระถาง สำหรับมือสมัครเล่น โรยเมล็ดแน่นอยู่จุดเดียวกัน ก็จะได้ต้นใหญ่เล็กไม่ค่อยสม่ำเสมอตามตำราเลยค่ะ
สำหรับดินปลูกต้องพยายามผสมให้ร่วนที่สุด เพราะกล๊อกซิเนียชอบดินโปร่งๆ ระบายน้ำได้ดี แต่ต้องเก็บความชื้นได้ รอบนี้ ใช้ทั้งหินภูเขาไฟ เพราะไม่มีทรายหยาบ ผสมกับดินปลูกถุง ปุ๋ยไส้เดือน ปุ๋ยออสโมโคท สูตร 13-13-13 สตาร์เกิลจีกันแมลง ค่อยๆ ย้ายต้นลงปลูกทีละต้น รดน้ำให้ชุ่มๆ แล้วเก็บไว้ที่รับแดดรำไรได้ หาที่วางอยู่หลายที จนสุดท้ายทำเลที่ตั้งแอร์หลังบ้าน การปลูกแบบไม่มีโรงเรือนอะไรเลย เราต้องค่อยเช็คแดดเป็นระยะ เพราะแดดที่บ้านเปลี่ยนทิศทางไว จากแดดรำไรก็อาจกลายเป็นแดดแรงจนใบตายนึ่งได้เลย
หลังต้นติดดีแล้ว น้ำต้นออกมารับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า อันหลังนี้คิดเอง เพราะอยากให้ต้นแข็งแรงมากขึ้น
มีใบตายนึ่งเพราะโดนแดดแรง ^^'
ความสนุกของการปลูกดอกกล๊อกซิเนีย คือการรอตุ่มดอก มาให้เห็นนิดๆ แล้วค่ะ
ดอกตูมยืดแล้ว หลังเจอพายุดอกหญ้า ต้นกล๊อกซิเนียใบสวยก็เต็มไปด้วยขนปุกปุย
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ดอกก็เริ่มบานสวย ชงกาแฟมาจิบ ชมดอกกล๊อกซิเนียกันได้แล้ว
ลากันไปด้วยภาพนี้ค่ะ หวังว่า ผู้อ่านจะพอได้ประโยชน์ เพลิดเพลินในการรับชมภาพดอกกล๊อกซิเนีย ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่านที่เข้ามาชมกระทู้นี้ด้วยนะคะ
ปล. ปัจจุบันผู้เขียนเป็นแม่บ้าน ปลูกดอกไม้เพื่อเทอราปีตัวเอง อยากมีความสุข มีโมเมนต์ตื่นมาแล้วดูดอกไม้ของตนเองทุกวันค่ะ และอยากบอกให้โลกรู้นิดหน่อยเกี่ยวกับตอกไม้ที่ชอบ ผู้อ่านได้ชมแล้วเกิดความสุขใจ
ขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่แวะมาอ่านนะคะ