ระวัง! จัดฟันแฟชั่น จากฟันสวยเป็นฟันเสีย เพราะความเชื่อสุดเพี้ยน
ระวัง! จัดฟันแฟชั่น จากฟันสวยเป็นฟันเสีย เพราะความเชื่อสุดเพี้ยน
หากจะกล่าวถึงค่านิยมความงาม ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าเรียว ผิวขาว หุ่นที่ผอมบาง อีกหนึ่งสิ่งที่ยังเป็นที่นิยมอยู่ นั่นก็คือ จัดฟันแฟชั่น
.
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับการจัดฟันแฟชั่นกันเสียก่อน
การจัดฟันแฟชั่น หรือเรียกว่า “ดัดฟันแฟชั่น” คือ การนำอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายเครื่องมือจัดฟันแบบโลหะมาติดบนผิวฟันด้านหน้าให้เหมือนกับว่ากำลังจัดฟันแบบโลหะอยู่ เป็นการทำเพื่อตอบสนองต่อความชอบ ไม่ได้ช่วยรักษาการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติ โดยส่วนลวดจะทำจากสเตนเลสแบบอ่อน และใส่ลูกลูกปัด หรือพลาสติกสีที่มีหน้าตาคล้ายแบร็กเก็ต (Bracket) และยางรัดฟัน (O-ring)
ซึ่งการจัดฟันแฟชั่น พบได้มากในประเทศไทยของเรา เนื่องจากการจัดฟันเหมือนจะกลายเป็นแฟชั่น โดยเฉพาะในกลุ่มของวัยรุ่น ที่เห็นว่าการที่มีเหล็กดัดฟันสีต่างๆ เป็นสิ่งสวยงาม หรือบางครั้งก็เกิดจากความเชื่อที่ว่า ดัดฟันแล้วดูมีฐานะ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดเพี้ยนไปจากความจริงเป็นอย่างมาก
แล้วประเภทของการจัดฟันแฟชั่นมีกี่แบบ
ประเภทของการจัดฟันแฟชั่น มี 2 แบบ ได้แก่
1.จัดฟันแฟชั่นแบบติดแน่นกับฟัน คือจะเป็นการติดอุปกรณ์ด้วยกาวที่บริเวณฟันหน้าให้ดูเหมือนกับว่ากำลังจัดฟันแบบโลหะจริง ๆ ซึ่งตัวกาวและอุปกรณ์ก็จะติดอยู่กับฟันของผู้ที่จัดฟันแฟชั่นจริงๆ
2.จัดฟันแฟชั่นแบบถอดได้ จะเป็นอุปกรณ์จะมีลักษณะคล้ายรีเทนเนอร์ ไม่ติดอยู่บนผิวฟันจริง ๆ สามารถถอดออกได้ ก็คือสำหรับคนที่จัดฟันแฟชั่นลักษณะนี้ มักจะนำมาใส่ในสถานการณ์ที่ต้องการ และสามารถถอดออกได้
สวยอันตราย จัดฟันแฟชั่นอันตรายกว่าที่คิด
ความสวยจากการที่เราจัดฟันแฟชั่นอาจทำให้เราเป็นจุดเด่น ดูดี เป็นที่ยอมรับในกลุ่มเพื่อน แต่หากจะกล่าวถึงความเสี่ยงจากอันตรายที่ต้องเผชิญแล้วล่ะก็ ไม่คุ้มกันเลยล่ะ เพราะการจัดฟันแฟชั่นนั้นอันตรายหลายด้านมาก ทั้งต่อฟันและช่องปาก วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ดัดฟันแฟชั่นส่วนใหญ่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ใช่อุปกรณ์ที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้ในทางทันตกรรมโดยเฉพาะ เครื่องมือไม่สะอาดและมักมีสารปนเปื้อนโลหะอยู่หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น โครเมียม ตะกั่ว สารหนู หรือสารปรอท ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ อีกทั้งการจัดฟันโดยไม่ใช้ผู้เชี่ยวชาญนั้นก็เสี่ยงอันตรายเป็นอย่างมาก
ผลเสียจากการทำฟันแฟชั่น
ผลเสียจากการทำฟันแฟชั่นนั้นส่งผลต่อสุขภาพฟันและช่องปากโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นอาการแพ้จากสารปนเปื้อนโลหะในวัสดุดัดฟันแฟชั่นซึมเข้าสู่ร่างกาย ในระยะยาวอาจทำให้เกิดไตเสื่อม มะเร็งปอด หรือมะเร็งต่อมลูกหมากได้
เกิดโรคเหงือกอักเสบ มีเลือดไหล มีแผลในช่องปาก จากการที่ลวดทิ่มเหงือก เกิดเป็นแผลอักเสบเสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือดจากการใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ได้เกรดทางการแพทย์ และไม่มีความสะอาดพอ
หรือกระทั่งการที่ฟันล้มต้องถอนทิ้ง เนื่องจากฟันเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม ทำให้เกิดฟันล้มทั้งปาก ฟันเบี้ยว หรือการสบฟันผิดปกติ มีอาการปวดฟัน ฟันตาย และรากฟันละลาย จากแรงกดของวัสดุดัดฟันแฟชั่นที่มากเกินไป และต้องรักษาด้วยวิธีการจัดฟันจริง ๆ เท่านั้นจึงจะสามารถแก้ไขได้
(ฟันเก ฟันซ้อน คางยื่น)
ความแตกต่างของการจัดฟันธรรมดา และจัดฟันแฟชั่น
การจัดฟันตามแฟชั่นทำเพื่อเลียนแบบการจัดฟันแบบโลหะ และทำขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความชอบส่วนตัวเท่านั้น ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาฟันจริง ๆ ในขณะที่การจัดฟันแบบโลหะ เป็นการจัดฟันประเภทหนึ่งที่ทำเพื่อรักษาอาการฟันเรียงตัวผิดปกติ เช่น ฟันซ้อน ฟันเก หรือฟันสบกันผิดปกติ เพื่อให้ฟันเรียงตัวสวยงาม
การจัดฟันแบบโลหะนั้น จะทำภายใต้การดูแลโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดฟันโดยเฉพาะ มีการวางแผนรักษาอย่างละเอียด ใช้วัสดุทางทันตกรรมที่ได้มาตรฐาน และค่อย ๆ ปรับเครื่องมือเพื่อขยับฟันให้เคลื่อนที่อย่างเหมาะสม ซึ่งปลอดภัยกว่าการจัดฟันตามแฟชั่นมาก
จะเห็นได้ว่า การจัดฟันแฟชั่นนั้นอันตรายกว่าที่เราคิด แม้ว่าจะได้ความสวยงาม หรือเป็นที่นิยมแต่ก็ไม่คุ้มค่ากับสุขภาพภายในช่องปากที่เสียไป อาจเกิดฟันล้มทั้งปาก ฟันตาย ติดเชื้อในกระแสเลือด หรือถ้าโชคร้ายกว่านั้นอาจนำสู่การเป็นมะเร็ง ร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต
ถ้าหากใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟันจริงๆ ฟันเรียงตัวไม่สวยงาม ฟันซ้อน ฟันเก ก็ควรเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันจริงๆ โดยผ่านผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งการจัดฟันนั้นก็มีให้เลือกหลายแบบทั้งการจัดฟันแบบโลหะ และจัดฟันแบบใส ถึงแม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าการจัดฟันแฟชั่น แต่มันก็คุ้มค่าเพราะสามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่องฟันของเราได้จริงค่ะ