กินไก่เยอะเป็นโรคเก๊าท์! จริงหรือ?
กินไก่เยอะเป็นโรคเก๊าท์! จริงหรือ?
ในบรรดาเนื้อสัตว์ ไก่ถือเป็นแหล่งโปรตีนสำคัญของพวกเราเหล่ามวลมนุษย์มาอย่างยาวนาน ด้วยความนิยมทานเนื้อไก่กันมากทั่วทุกมุมโลก หลายคนก็คงจะเคยได้ยินชื่อโรคชนิดหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับการทานเนื้อไก่ นั่นก็คือ โรคเก๊าท์ นั่นเอง
แต่ว่าเนื้อไก่นั้น จะเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคเก๊าท์อย่างแท้จริงไหม ไปดูกัน
สำหรับโรคเก๊าท์ก็เป็นในหนึ่งโรคร้ายที่หลายคนอย่างหลีกเลี่ยง เนื่องจากอาการของโรคที่น่ากลัวตั้งแต่อาการปวดตามจุดข้อบนร่างกายไปจนถึงความพิการ หรือเกิดไตวายแทรกซ้อนได้ โดยอาจไม่รู้เลยว่าสาเหตุหลักของการเกิดโรคนี้เกิดจาก “กรดยูริก” ที่สะสมในร่างกายมากเกินไป
ทานไก่เยอะเสี่ยงโรคเก๊าท์ ?
การทานไก่เยอะ แล้วจะทำให้เป็นโรคเก๊าท์นั้นเป็นความเข้าใจที่ผิด เนื่องจากโรคนี้เกิดจาการสะสมกรดยูริกในปริมาณที่มากในร่างกาย และกรดชนิดนี้ก็ไม่ได้พบมากในไก่ เพราะกรดยูริกจะถูกผลิดขึ้นจากร่างกายของเราเอง ประกอบกับอาหารที่เราทานเข้าไปด้วย
แล้วเป็นเก๊าท์ทำไมถึงห้ามกินไก่?
ถึงแม้ว่าการทานไก่จะไม่ใช่สาเหตุของการเกิดโรคเก๊าท์ แต่สำหรับผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์อยู่แล้วการทานไก่ หรืออาหารที่มีโปรตีน และกรดยูริกสูงจะทำให้อาการกำเริบขึ้นมาได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์อยู่แล้วจึงควรหลีกเลี่ยงการทานไก่นั่นเอง
ถ้าอย่างนั้น อาหารอะไรบ้างที่จะทำให้เป็นโรคเก๊าท์ได้
สำหรับอาหารที่เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเก๊าท์นั้น ล้วนแต่เป็นอาหารที่มีกรดยูริกสูงทั้งสิ้น เช่น
1.พวกอาหารทะเล กุ้ง หอย
2.น้ำหวาน
3.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
4.ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง
5.หน่อไม้ เห็ด ชะอม
6.เครื่องในของสัตว์
7เนื้อสัตว์แดง
อ่านจบแล้วก็ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เพราะว่าอาหารเหล่านี้ล้วนแต่เป้นอาหารที่เราทานกันในชีวิตประจำวันกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าเราสามารถป้องกันตัวเองได้ ด้วยการไม่ทานอาหารจำพวกนี้ในปริมาณที่มากเกินไปติดต่อกันหลายๆ วัน อย่างเช่นถ้าวันนี้ไปจัดหนักบุพเฟ่ต์กุ้งเผา วันพรุ่งนี้และวันถัดไปก็ทานอาหารปกติธรรมดา และทานอาหารให้หลากหลายสลับกันไปในแต่ละมื้ออาหาร
ที่สำคัญควรออกกำลังกายบ้าง อย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพียงเท่านี้ เราก็จะยังกินของที่อร่อยได้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือสุขภาพแข็งแรงด้วยค่ะ
ดังนั้นการทานไก่ไม่ใช่ต้นเหตุของโรคเก๊าท์นะคะ เพียงแค่เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยที่เป็นโรคเก๊าท์เท่านั้นค่ะ