5 ท่ากระชับสะโพกและก้นไวที่สุด
5 ท่ากระชับก้นและสะโพก
อยากมีก้นกระชับ กลมเด้ง สุดเซ็กซี่ แบบที่เราชื่นชอบ สามารถปั้นได้ไม่ยาก แม้แต่คนขี้เกียจก็สามารถทำได้ เพียงแค่ออกกำลังกายกระชับก้น ด้วย 5 ท่าที่เราจะมาแนะนำวันนี้ รับรองว่าทำตามได้ไม่ยาก ทำง่าย ๆ ได้ที่บ้าน แถมได้ก้นที่สวยถูกใจตามที่เราต้องการแน่นอนค่ะ
ปัญหาก้นหย่อนคล้อย
ก้นหย่อนคล้อย ไม่กระชับ เป็นปัญหาสัดส่วนที่สามารถเกิดได้กับทุกเพศ ทุกวัย และที่สำคัญสามารถเกิดได้กับทุกหุ่นทุกรูปร่าง เนื่องจากมีการสะสมของไขมันส่วนเกินบริเวณก้น หรือ สะโพก ในปริมาณที่มาก จนทำให้รูปร่างของก้นไม่สวยกลมเด้งได้รูปตามที่เราต้องการ ดังนั้น การจะทำให้ก้นกลับมากระชับได้นั้นจะต้องลดไขมันส่วนเกินบริเวณก้นกันก่อน โดยวิธีที่สามารถช่วยลดขมันได้ง่าย ๆ นั้น คือการออกกำลังกายกระชับก้น
1. Glute bridge
ท่านี้ปลอดภัยสำหรับผู้เริ่มออกกำลังกาย เป็นท่าที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อสะโพก กล้ามเนื้อขาด้านใน และกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว
วิธีทำ:
1) นอนหงายโดยงอเข่าและเท้าวางบนพื้น วางแขนไว้ข้างลำตัวโดยให้ฝ่ามือราบกับพื้น
2) เกร็งหน้าท้องและกล้ามเนื้อสะโพก กดเท้าลงไปที่พื้น แล้วยกสะโพกขึ้นจากพื้น ร่างกายควรเป็นเส้นตรงจากไหล่ถึงเข่า
3) ค้างไว้เป็นเวลา 5 วินาที แล้วค่อยๆ ลดระดับลงมาที่ตำแหน่งเริ่มต้น
4) ทำซ้ำ 3 ชุด 15 ครั้ง
2. Jumping squats
การอกกำลังกายท่านี้จะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ และช่วยเสริมความแข็งแรงของบั้นท้าย สะโพก กล้ามเนื้อส่วนควอดส์ เอ็นร้อยหวาย และน่อง ทั้งนี้เป็นท่าที่ไม่เหมาะกับผู้มีปัญหาเกี่ยวกับหัวเข่า ข้อเท้า และสะโพก หรือมีปัญหาในการทรงตัว
วิธีทำ:
1) ยืนในท่าย่อตัว โดยกางขาให้เท้ากว้างกว่าความกว้างของไหล่เล็กน้อย และวางแขนไว้ข้างลำตัว
2) ย่อตัวลงจนต้นขาขนานกับเข่า ขณะที่ย่อตัวให้ขยับแขนไปข้างหน้า หันฝ่ามือเข้าหากัน
3) กระโดดขึ้น-ลง พยายามดันเท้าให้สูงจากพื้นอย่างน้อย 3 นิ้ว พร้อมกางแขนออกเพื่อช่วยทรงตัว
4) ย่อตัวลงเบาๆ พร้อมงอเข่า ทำอย่างนี้ซ้ำๆ 3 ชุด 10-15 ครั้ง
3. Single-leg deadlift
ท่าบริหารต้นขาด้านหลัง บั้นท้าย ก้น และเป็นท่าที่ใช้กล้ามเนื้อเกือบทุกส่วนของร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มพลังขาให้เราสามารถทรงตัวได้ดีมั่นคง
วิธีทำ:
1) ถือดัมเบลทั้ง 2 ข้าง(หากไม่มีใช้ขวดน้ำแทนก็ได้ค่ะ)
2) ยืนโดยให้น้ำหนักตัวลงบนขาซ้าย
3) ก้มลำตัวลงไปข้างหน้า ในขณะที่ขาขวายื่นตรงขนานกับพื้นไปทางด้านหลัง
4) ลดขาลงมาที่ตำแหน่งเริ่มต้น
5) ทำซ้ำ 3 ชุด 15 ครั้ง กับขาทั้ง 2 ข้าง
4. Clamshell
ท่านี้มุ่งเป้าไปที่กล้ามเนื้อสะโพกด้านข้าง ทั้งช่วยสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และยังช่วยป้องกันอาการปวดหลังส่วนล่างอีกด้วย
วิธีทำ:
1) นอนตะแคงซ้ายโดยวางขาซ้อนกัน หัววางบนแขนซ้าย และมือขวาวางบนสะโพก
2) งอสะโพกและเข่าเพื่อทำมุม 90 องศา เท้าควรอยู่ในแนวเดียวกับก้น
3) ยกเข่าขวาให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเท้ายังสัมผัสกันอยู่ และอย่าหมุนสะโพกตาม
4) ค้างขาไว้ที่ด้านบน 2-3 วินาทีก่อนลดระดับลงอย่างช้าๆ ไปที่ตำแหน่งเริ่มต้น
5) ทำซ้ำ 3 ชุด 15 ครั้ง และทำซ้ำอีกด้านหนึ่ง
5. Donkey kicks
ท่านี้มุ่งเน้นไปที่กล้ามเนื้อสะโพก เป็นท่าออกกำลังก้นที่เหมาะมากสำหรับการกระชับก้นส่วนหลัง ช่วยลดเซลลูไลท์ต้นขา และทำให้หน้าท้องแบนราบด้วย
วิธีทำ:
1) วางตำแหน่งร่างกายด้วยมือและเข่า โดยแยกเข่าเท่าความกว้างเท่าสะโพก มือวางราบกับพื้น และสันหลังขนานกับพื้น
2) เกร็งช่วงลำตัว จากนั้นยกขาซ้ายขึ้นจากพื้น โดยให้เข่าขวางอและเท้าราบกับพื้น
3) ใช้กล้ามเนื้อสะโพกดันเท้าขึ้นไปบนเพดานและค้างไว้ก่อนขยับขามาที่ตำแหน่งเดิม
4) ทำ 15 ครั้งเป็นจำนวน 3 เซต และทำซ้ำอีกข้างหนึ่ง
ทั้งนี้การหดตัวของกล้ามเนื้อจะสามารถสร้างมวลกล้ามเนื้อใหม่ ทำให้มีขนาดใหญ่และแข็งแรงขึ้น สามารถสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มจำนวนกล้ามเนื้อให้ทนทานแข็งแรงและทำให้กล้ามเนื้อกลับมาชิดกันมากขึ้น ส่งผลให้รูปร่างกระชับ มีกล้ามเนื้อหน้าท้องและซิกแพค พร้อม ๆ กับการเผาผลาญไขมันและการทำลายเซลล์ไขมัน
ต้องทำบ่อยแค่ไหน ต้องพักฟื้นหรือไม่
Emsculpt ควรทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เหมือนกับการออกกำลังกายปกติ และสามารถทำทรีทเมนท์เพียง 4-6 ครั้งเท่านั้น ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ที่สำคัญไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น